More
    หน้าแรกหนังสือพัฒนาตนเองรีวิว เลิกเป็นคนดีซะที หนังสือที่ให้คุณตามใจตัวเองมากกว่าคนอื่น

    รีวิว เลิกเป็นคนดีซะที หนังสือที่ให้คุณตามใจตัวเองมากกว่าคนอื่น

    หนังสือ"เลิกเป็นคนดีซะที" ชวนคุณมาเลิกเป็นคนดีของคนอื่น แต่เป็นคนดีของตัวเองก็พอ เอาตัวตนของคุณออกมาเข้าหาคนอื่นอย่างจริงใจ การเป็นคนดีของคนอื่นเสมอไม่ทำให้อะไรดีขึ้น มีแต่ตัวคุณเองที่จะเหนื่อยล้า

    -

    เคยไหมที่ไม่ว่าในกลุ่มจะถามความคิดเห็นอะไรคุณมักจะตอบว่า “อะไรก็ได้” , เคยไหมที่หลายครั้งคุณเลือกทำตามความต้องการของคนอื่นมากกว่าตัวเอง ทั้งๆ ที่สิ่งที่คุณต้องการก็ไม่ได้ผิดอะไร , เคยไหมหลายๆ ครั้งที่คุณมักเป็นฝ่ายโอนอ่อนตามคนอื่นๆ มากกว่าได้เป็นตัวของตัวเอง ลักษณะที่กล่าวมาข้างต้นนั้นในหนังสือ “เลิกเป็นคนดีซะที” นิยามไว้ว่าคุณเป็น “คนดี” แต่คนดีในที่นี้ไม่ใช่เรื่องดีหรอกนะ เพราะคุณเป็นคนดีของคนอื่นแต่ไม่ได้เป็นคนดีของตัวเองยังไงละ หนังสือเล่มนี้ไม่ได้บอกว่าการเลิกเป็นคนดีคือสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น แต่เลิกเป็นคนดีของคนอื่นแต่เป็นคนดีของตัวเองก็พอ

    รีวิว เลิกเป็นคนดีซะที เลิกเป็นคนดีของคนอื่นและใจดีกับตัวเอง

    เลิกเป็นคนดีซะที
    เลิกเป็นคนดีซะที

    หนังสือเล่มนี้เขียนโดยคุณ Mogi Kenichiro นักวิชาการด้านสมองประจำมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ โดยตัวผู้เขียนนั้นได้เคยเผยแพร่งานวิจัยและบทความต่างๆ เกี่ยวกับการทำงานของสมองและการใช้ชีวิตของมนุษย์ในหลากหลายรูปแบบ โดยหนังสือเล่มนี้นั้นได้อธิบายถึงกลไกของสมองที่ทำให้มนุษย์เราเป็น “คนดี” และเรียนรู้ที่จะเลือกเป็น “คนดี” เพื่อประสบการณ์ในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้างที่ผู้เขียนได้นำความรู้และประสบการณ์ที่ได้พบรวมถึงเรื่องราวของตัวเขาเองมาถ่ายทอดลงหนังสือเล่มดังกล่าว

    ตัวเนื้อหาหนังสือนั้นมีพื้นฐานมาจากวัฒนธรรมของญี่ปุ่นที่เป็นคนมีความอดทน ทุ่มเท จริงจังอยู่เสมอ การแตกแถวหรือทำตัวแตกต่างจะทำให้พวกเขากลายเป็นเหมือนแกะดำของคนรอบข้าง จึงต้องใช้ชีวิตตามบรรทัดฐานเพื่อให้ตัวเองถูกสังคมยอมรับและมองเห็นคุณค่า โดยตัวผู้เขียนตั้งคำถามว่าสิ่งเหล่านั้นก่อให้เกิดความสุขได้จริงๆ เหรอ แต่กลับมองว่าการดำเนินชีวิตโดยคิดถึงเพียงแต่ความพึงพอใจของผู้คนรอบข้าง ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อตัวตนหรือความสุของตนเองเท่าที่ควรจะก่อให้เกิดความสุขได้อย่างไร ผู้เขียนต้องการให้ทุกคนที่อ่านเล่มนี้ได้ฉุกคิดว่าชีวิตเป็นของคุณเองจึงควรใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ให้ความสำคัญต่อความพึ่งพอใจของตนเองมากกว่าสายตาคนอื่น คุณไม่จำเป็นต้องเป็น “คนดี” เพื่อคนอื่น แต่จงเป็น “คนดี” ของตัวเองและรักตัวเองให้มากๆ ก็เพียงพอ

    หนังสือนี้จะช่วยให้คุณสลัดคราบคนดีที่เอาแต่คิดถึงคนอื่น เป็นคุณคนใหม่ที่รักตัวเองมากขึ้น เพราะการเป็นคนดีไม่ได้ถูกตีกรอบว่าต้องทำให้คนอื่นมองเห็นคุณค่าของคุณ ตราบใดที่คุณไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับใคร รู้จักที่จะแบ่งปันความสุขกับคนอื่น แค่นั้นก็นับว่าเกินพอและช่วยให้สังคมนี้น่าอยู่ขึ้นมาแล้ว

    การที่คุณอดทนที่จะเป็น “คนดี” ต่อไปเรื่อย ๆ นั้น
    ไม่สามารถทำให้ได้รับ “ความสัมพันธ์ที่น่าวางใจ” ที่แท้จริง
    จากคนรอบข้างได้หรอก

    หนังสือได้แบ่งเนื้อหาออกเป็น 4 ที่จะค่อยๆ เปลี่ยนมุมมองและความคิดของคุณทีละเล็กน้อยไม่ต้องรีบร้อนที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองหรอกนะ แค่ค่อยเป็นค่อยไปก็พอ

    บทที่ 1 ทำไมสมองถึงได้เล่นบท “คนดี” ล่ะ

    บทนี้จะอธิบายถึงลักษณะต่างๆ ของคนที่มักจะเป็น “คนดี” ในสายตาของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมหรือเหตุผลของการกระทำ อาทิ ขาดความมั่นใจในตัวเอง ความมุ่งมั่นในตัวเองที่ยังมีไม่มากพอ นั้นเพราะส่วนมากคนที่ทำตัวแบบนี้นั้นมักวางตัวอยู่ตรงกลางของสังคมไม่เอนเอียงหรือมีความชัดเจนในการตัดสินใจและความคิด เพื่อไม่ให้ถูกตัดสินจากคนอื่นมากจนเกินไป ทั้งยังชี้ให้เห็นว่าใครก็ตามที่มักทำตัวเป็น “คนดี” มักจะไม่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจเพราะไม่สามารถตัดสินใจในเรื่องสำคัญได้โดยไม่ถูกควบคุมจากสมองและเหตุผล ไม่มีแรงหลงผลักดันหรือความบ้ามากพอที่จะเสี่ยงทำอะไรนอกกรอบ

    บทที่ 2 ไม่ต้องพยายามเพื่อคนอื่นก็ได้

    บทนี้ได้กล่าวถึงการสูญเสียตัวตนของตัวเองโดยสิ้นเชิง เพราะต้องคอยทำตามความต้องการและใส่ใจความคิดคนอื่นมากจนเกินไป จึงไม่สามารถแสดงหรือเป็นตัวของตัวเองได้อย่างแท้จริง และนั้นยังส่งผลถึงความสัมพันธ์ในด้านต่างๆ ด้วยเพราะไม่ว่าใครก็อยากสนิทกับคนที่รู้จักอย่างจริงใจและเปิดเผยตัวตนของตัวเอง มากกว่าเก็บงำตัวตนที่แท้จริงของตัวเองเอาไว้ ความแปลกประหลาดคือมนุษย์รู้สึกเรื่องเหล่านี้ได้โดยสัญชาติญาณ แม้คุณจะเป็นคนดีมากแค่ไหน แต่หากปราศจากตัวตนที่แท้จริงแล้วก็เหมือนคุณไม่ได้ให้ความจริงใจต่อกัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่ควรทำคือการเป็นตัวเอง

    บทที่ 3 ความเคยชินในสมองทีทำให้เลิกเป็น “คนดี” คืออะไร

    กล่าวถึงสาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้คุณไม่สามารถเลิกเป็คนดีได้ ซึ่งสาเหตุหลักๆ ก็คือการที่ปล่อยให้ความคิดของคนอื่นมาชี้นำตัวเราจนไม่สามารถเป็นตัวเองได้ ทั้งยังปล่อยให้คนอื่นเอาเปรียบหรือกุมอำนาจเหนือกว่าด้วยคำพูดว่าไม่เป็นไรทั้งๆ ที่ในใจของเราอาจะไม่โอเคก็เป็นได้ และยังอธิบายถึงการเลิกเป็น “คนดี” รักตัวเองให้มาก แต่ก็ยังสามารถอยู่ร่วมกับผู่อื่นหลีกเลี่ยงความขัดแย้งได้ หากคุณวางตัวดีรู้จังหวะที่เหามะสมไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นคนดีก็สามารถอยู่กับคนอื่นได้เช่นกัน

    บทที่ 4 เลิกเป็น “คนดี” และใช้ชีวิตอย่างสบายและมีอิสระมากขึ้น !

    บทที่สำคัญที่สุดที่รวบรวมวิธีที่จะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงความคิดของคุณไปทีละนิดทีละหน่อย การเลิกเป็น “คนดี” ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องทำเรื่องแย่ๆ แต่เป็นการที่รู้จักตอบสนองความต้องการของตัวเอง เดินและกล้าแสดงออกความคิดของตนเอง ไม่ปล่อยให้คนอื่นมามีอิทธิพลต่อชีวิตคุณมากจนเกินไป เพราะหากคุณต้องการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่สิ่งแรกคือเลิกทำตัวเป็นคนดีและเอาใจผู้อื่นก่อน แล้วมาเป็นคนดีที่เอาใจตัวเองและค่อยๆ ปรับตัว วางตัวอย่างเหมาะสมต่อสังคมรอบข้าง คุณจะสามารถสร้างความสัมพันธ์อันดีงามที่ยั่งยืนได้แม้ไม่ได้เป็นคนดีก็ตาม

    สรุป 5 ข้อที่เรียนรู้จากหนังสือเลิกเป็นคนดีซะที

    1.อย่าลืมใส่ใจความรู้สึกตัวเอง

    2.มั่นใจในตัวเองเข้าไว้ กล้าที่จะแสดงออก

    3.คุณจะได้ความสัมพันธ์ที่จริงใจ ก็ต่อเมื่อคุณเข้าหาคนอื่นด้วยตัวตนที่แท้จริงเช่นกัน

    4.อย่าให้ความคิดคนอื่นมามีอิทธิพลต่อคุณ จนสูญเสียความเป็นตัวเอง

    5.เป็นคนดีกับตัวเองเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะเป็นคนดีกับคนอื่น

    และนี้คือรีวิวหนังสือ “เลิกเป็นคนดีซะที” หนังสือที่จะทำให้คุณเลิกเป็นคนดีของคนอื่น แต่เป็นคนดีของตัวเองทั้งยังรักษาความสัมพันธ์กับผู้อื่นไว้ได้อย่างสบายใจและจริงใจมากขึ้น เพราะคุณเรียนรู้ที่จะเข้าหาคนอื่นโดยใช้ตัวตนที่แท้จริงของตัวเองได้สักที สุดท้ายนี้ใครที่มองหาร้านหนังสือออนไลน์ก็สามารถเข้ามาได้ที่ Reeeed.com เรามีหนังสือมากมายหลากหลายรอคอยนักอ่านทุกท่านอยู่เสมอค่ะ เลือกจะ Read เลือก Reeeed นะคะ

    สนใจซื้อหนังสือ เลิกเป็นคนดีซะที(e book) หรือ เลิกเป็นคนดีซะที (หนังสือเล่ม)

    Reeeed
    Reeeedhttps://www.reeeed.com
    รวบรวมบทความเกี่ยวกับหนังสือ แนะนำหนังสือ พร้อมบอกเล่าความน่าประทับใจที่น่าติดตามของหนังสือแต่ละเล่ม พื้นที่ของนักอ่าน ที่รวมสิ่งดีๆ ไว้สำหรับคุณ ยิ่งอ่านยิ่งได้ เลือกจะ Read เลือก Reeeed

    บทความล่าสุด

    เดล คาร์เนกี (Dale Carnegie) นักเขียนผู้พัฒนาศาสตร์แห่งการสื่อสารและสร้างสัมพันธ์

    เดล คาร์เนกี (Dale Carnegie) นักเขียนผู้มีผลงานมุ่งเน้นในการเสริมสร้างความสัมพันธ์และบุคลิกภาพที่ดีให้แก่ผู้คนที่พบปัญหาด้านนี้ พร้อมทั้งได้สร้างงานเขียนและสถาบันที่ส่งเสริมให้คนมีความมั่นใจในตนเองได้มากขึ้น

    รีวิว เราจะเป็นแดดจ้า ในวันที่ฟ้ามีเมฆมาก

    รีวิว "เราจะเป็นแดดจ้า ในวันที่ฟ้ามีเมฆมาก" จากนักวาดภาพประกอบแพซ็องแท ที่มีผู้ติดตามกว่า 100000 คนจะมาบอกเล่าเรื่องราวความรักและชีวิตคู่ของเขาและภรรยาพร้อมกับแมวอีกสองตัว ให้คุณได้สมัผัสความอบอุ่นของความรักที่งดงาม

    อ่านตาม เยริ (Yeri) น้องสาวคนเล็กจาก red velvet

    อ่านตาม เยริ (Yeri) น้องเล็กของ red velvet ที่มากด้วยความสามารถและเสน่ห์ที่ใครๆ ต่างก็หลงใหลพร้อมๆ กับชั้นหนังสือที่เธอได้อ่านที่มีความน่าสนใจและน่าติดตามไม่แพ้กัน จะมีเล่มไหนบ้างติดตามได้ในบทความนี้

    Battle of Stalingrad หนึ่งในสมรภูมิชี้ชะตาในสงครามโลกครั้งที่ 2

    ยุทธการที่สตาลินกราด (Battle of Stalingrad) หนึ่งในสมรภูมิที่ยากลำบากที่สุดในการต่อสู่ระหว่างมนุษย์ หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญอันนำมาสู่การตัดสินชี้ขาดของสงครามโลกครั้งที่และการสูญเสียเหลือคณานับ
    - Advertisement -spot_imgspot_img

    รู้จัก “โรคไต” กับ 150 ข้อควรรู้เกี่ยวกับภัยร้ายที่ถูกมองข้าม

    โรคไต หนึ่งในโรคร้ายที่มีผู้ป่วยมากมายพบปัญหากับโรคนี้ในปัจจุบัน ทำให้ใช้ชีวิตได้อย่างยากลำบาก มาทำความรู้จักโรคไตกันลึกซึ้ง พร้อมหนังสือแนะนำสำหรับดูแลตนเองเมื่อป่วยเป็นโรคไตและหลีกเลี่ยงโรคนี้

    อ็องเดร ฌีด (André Gide) นักเขียนรางวัลโนเบลผู้ให้ความสนใจปัญหาสังคมและวัฒนธรรมฝรั่งเศส

    อ็องเดร ฌีด (André Gide) เนักเขียนชาวฝรั่งเศสผู้ชื่นชอบการสำรวจ แสวงหาความหมายและคุณค่าของชีวิต ตลอดจนกระทั่งปัญหาสังคมในชีวิตประจำวันของฝรั่งเศส ทั้งยังนำเอาเรื่องราวเหล่านั้นสร้างสรรค์ผลงานจนได้รับรางวัลโนเบลในเวลาต่อมา

    บทความแนะนำ

    เดล คาร์เนกี (Dale Carnegie) นักเขียนผู้พัฒนาศาสตร์แห่งการสื่อสารและสร้างสัมพันธ์

    เดล คาร์เนกี (Dale Carnegie) นักเขียนผู้มีผลงานมุ่งเน้นในการเสริมสร้างความสัมพันธ์และบุคลิกภาพที่ดีให้แก่ผู้คนที่พบปัญหาด้านนี้ พร้อมทั้งได้สร้างงานเขียนและสถาบันที่ส่งเสริมให้คนมีความมั่นใจในตนเองได้มากขึ้น

    รีวิว เราจะเป็นแดดจ้า ในวันที่ฟ้ามีเมฆมาก

    รีวิว "เราจะเป็นแดดจ้า ในวันที่ฟ้ามีเมฆมาก" จากนักวาดภาพประกอบแพซ็องแท ที่มีผู้ติดตามกว่า 100000 คนจะมาบอกเล่าเรื่องราวความรักและชีวิตคู่ของเขาและภรรยาพร้อมกับแมวอีกสองตัว ให้คุณได้สมัผัสความอบอุ่นของความรักที่งดงาม
    - Advertisement -spot_img

    เราคิดว่าคุณน่าจะชอบRELATED