More
    หน้าแรกนิยายวรรณกรรมนิยายรักสุดฟิน"ปักรักลายบุปผา"ชวนจิ้นสาวปักผ้ากับทายาทหมื่นล้าน

    นิยายรักสุดฟิน”ปักรักลายบุปผา”ชวนจิ้นสาวปักผ้ากับทายาทหมื่นล้าน

    ฮวาจิ่น หญิงสาวที่ทำอาชีพ สู่ซิ่ว เปิดร้านอาชีพปักผ้าเล็กๆในเมืองใหญ่ ต้องมาพบเจอกับ เผยเยี่ยน หนุ่มสุดร้ายทายาทมหาเศรษฐีที่เข้ามาพัวพันในชีวิตอันแสนสงบสุข นิยายรักที่เล่าเรื่องราวผ่าน สู่ซิ่ว หรืออาชีพคนปักผ้าที่จะพาคุณไปพบกับความละมุนของทุกตัวละครที่แวะเวียนเข้ามาระหว่างเรื่องราวของ ฮวาจิ่น และ เผยเยี่ยน

    -

    รีวิว ปักรักลายบุปผา นิยายรักที่นอกจากมีเนื้อหาชวนหวานอบอุ่นใจยังมีภาพสะท้อนมุมมองการแบ่งแยกชายหญิงของวัฒนธรรมจีนที่ปฏิบัติระหว่างลูกชายและลูกสาวไม่เท่าเทียมกัน ทั้งยังมีการสอดแทรกวัฒนธรรมที่น่าสนใจอย่าง ‘สู่ซิ่ว’ วัฒนธรรมการปักผ้าของชาวจีนซึ้งเป็นหนึ่งในสิ่งที่นิยายเรื่องนี้หยิบมาใส่และผูกปมออกมาได้อย่างน่าสนใจ รีวิวฉบับเต็มโดยเพจ คุณชายรีวิวหนังสือ ที่จะมาแชร์ประสบการณ์หลังจากอ่านนิยายเรื่องนี้จบเช่นเคยค่ะ

    รีวิว ปักรักลายบุปผา นิยายรักที่สอดแทรกวัณนธรรมจีนได้อย่างลงตัว

    อาจเป็นรูปภาพของ หนังสือ, ดอกไม้ และ ข้อความ


    นางเอกของเรื่องมีชื่อว่า ‘ฮวาจิ่น’ เธอเปิดร้านปักผ้าเล็กๆ ในเมืองใหญ่ ทว่ามีรายได้ไม่มากจึงไม่พ้นการถูกดูแคลนว่าเป็นพวกขายงานฝีมือและมีการศึกษาต่ำเรี่ยดิน แต่เธอก็ยังใช้วิชาชีพนี้เลี้ยงตัวเอง มีความสุขกับการสอยเข็มลงบนผืนผ้า สืบสานเจตนารมณ์ของคนรุ่นเก่า โนวแคร์ โนวสน โนวเอฟวิติง  

    บนความสดใสร่าเริงหนักเบาเอาสู้ของตัวละครฮวาจิ่น กลับเต็มไปด้วยฉากหลังชีวิตที่ไม่น่าจดจำ แม้จะไม่มีสังคมศักดินากางกั้นไว้เหมือนคนยุคโบราณ แต่ในเมื่อครอบครัวเลือกกดหัวลูกสาวเชิดชูลูกชาย เธอจึงมีชีวิตไม่ต่างอะไรจากกระดิ่งน้อยที่แขวนไว้รับลมหนาวร้อนทุกช่วงฤดู มีเพียงไออุ่นเดียวจากผู้เป็นยายที่พอทำให้เธอมีแรงลืมตาขึ้นพบแสงสว่างนำทาง แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็สูญสิ้นทุกอย่าง เหลือไว้แค่ภาพจำพร้อมทั้งผลักดันให้ก้าวไปข้างหน้า ปมของนางเอกตรงนี้ทำให้เนื้อเรื่องมีความหน่วงเล็กๆ แต่มันคือการปูที่มาที่ไปของตัวละคร กว่าเธอจะเป็นนักปักผ้ามือฉมังเช่นทุกวันนี้ได้ เธอต้องผ่านความโหดร้ายในชีวิตมาแล้วกี่ครั้ง 

    พระเอกของเรื่องชื่อว่า ‘เผยเยี่ยน’ รับบทเป็นนักลงทุนตัวฉกาจครอบคลุมทุกวงการ ควบตำแหน่งหลานชายนักธุรกิจหมื่นแสนล้านหยวน เขามาพร้อมกับสมญานามที่ชายตั้งให้ว่า ‘ความหล่อสามฉื่อ ความร้ายกาจสามฉื่อ แต่ความรวยพี่มีเยอะเหลือล้น’ ภาพจำของเขาคือ… เป็นคนร้ายกาจจับนิสัยไม่ถูกและไม่เห็นแก่หน้าใคร วันไหนพี่อยากเป็นคนดีพี่ก็เป็น วันไหนพี่เบื่อพี่ก็ไม่ งานถนัดคือรบกับญาติตัวเอง อ่านที่ชายเขียนแบบนี้แล้วหลายคนคงคิด… นี่มันพระเอกหรือไบโพล่าร์แมน 

    เรื่องนี้จึงเป็นการจับคนสองขั้ว ต่างสังคม ต่างการใช้ชีวิตมาเจอกัน นางเอกเชิดว่าฉันสวย ฉันไม่เดือดร้อนกับอาชีพที่ถูกมองว่าเป็นชั้นล่าง พระเอกก็ยักไหล่เบาๆ ตามสไตล์คนหล่อ ร้าย รวย มั่นหน้าเป็นหนึ่ง คิดจะหาคนพร้อมใช้แบบครบโพยอย่างเขา มันหาไม่ได้แล้ว ชายบอกเลยว่ามีทั้งความฮาน่ารักและยังมีน้ำตาเบาๆ ไปกับเรื่องราวของพวกเขา สนุกแค่ไหนชายเลาาาาาให้ฟัง 

    คุณชายรีวิวสายวิเคราะห์

    ตอนชายอ่านต้นเรื่องรู้สึกว่ามันไปเรื่อยๆ สไตล์เยว่เซี่ย เริ่มต้นจากวางให้นางเอกมีอาชีพเป็น ‘สู่ซิ่ว’ สวย สาว สด โสด เชิด และเป็นหญิงสาวรุ่นใหม่ที่มีมุมชีวิตสองด้าน หนึ่งคือด้านสดใสสไตล์สาวในเมืองใหญ่มุ่งมั่นกับการทำงาน กับอีกหนึ่งด้านที่เป็นมุมอาภัพของตัวละคร ซึ่งมุมนี้เขาจะค่อยๆ เผยออกมาทีละนิด ให้เราได้ค้นหาคำตอบเหมือนที่ชายเกริ่นไว้… ‘นางเอกเคยผ่านอะไรมา’ เธอถึงดูแกร่งและสู้ชีวิตขั้นสุด 

    แต่ไม่ต้องกลัวดราม่า พอเข้าสู่ช่วงครึ่งเล่มแรก พระเอกปรากฏตัวมาชัดละว่าคนนี้แน่ ความฮาก็เริ่มบังเกิด พี่เผยเยี่ยนของชาย พร้อมปัดทุกข์ปัดโศกให้กับคนอ่านทุกเว และมาเหนือกว่าพระเอกเรื่องอื่นของเยว่เซี่ยแบบฉีกออกไปเลย  
    – หล่อมีออร่าแบบคนเจ้าชู้ลูกเสี้ยวเพลย์บอย 
    – สูงขาวสันกรามชัดตรงสเปคครีเอท 
    – สวมเสื้อกั๊กเกงชน(สูง) มีมาดคนรวย 
    – ขับรถสปอร์ตหรูแวะแอ่วนางเอกริมถนน.. ‘ขึ้นรถไปกับพี่ไหมน้อง’

    ชายนึกในใจ… แม่น่าตบด้วยทองเปลวสักฉาด แต่ผิดคาดนางเอกแอ่วกลับแบบเดียวกับที่เขาหยอกเธอ พอหยอดกันไปหยอดกันมา ทั้งคู่ก็กลายเป็นคนรู้จักกันในชีวิตที่ยังไม่คิดจะคบเป็นแฟน สนุกสิทีนี้ 

    จุดที่ชายชอบอย่างแรกเลยคือตัวละครพระนาง เยว่เซี่ยทำให้ตัวละครนางเอกหลุดพ้นจากความเอื่อยเฉื่อย เพราะในช่วงหลังๆ เวลาเรานึกถึงนางเอกของเยว่เซี่ยทีไร เราจะอ๋อ…สายรอหลัวซัพพอร์ต ส่วนเธอนะหรอนั่งโบกพัดอยู่บนแท่น แต่พอได้อ่านเรื่องนี้ ความรู้สึกคล้ายกับตอนอ่านหัวโจกของเชียนซานฉาเค่อ มันว้าว มันดูเหมือนงานเขียนใหม่ๆ ชวนให้เราติดตาม 

    เริ่มจากบทพระเอกก่อน พี่รวย พี่มั่นหน้าว่าหล่อ พี่มั่นใจว่าพี่ร้ายสุดในรุ่น แต่พอเดินชนกับทางตันที่ชื่อว่าฮวาจิ่นเข้าจริงๆ เหมือนปุ่มตัวร้ายลูกเสี้ยวเพลย์บอยที่สั่งสมมาหลายหนาวถึงคราวจบสิ้น อย่างเวลาเขายกหางชมตัวเองว่าหล่อ นางเอกก็เสริมให้/ใช่คุณหล่อ ผมรวยนะ/ใช่คุณรวยมาก ผมเหมือนของหายาก/เท่าที่เห็นตอนนี้คุณคือที่สุด คุณชอบผม/ใช่ฉันชอบคุณ พระเอกของชายก็เริ่มไปไม่เป็นละ ทำไมดูเธอคล้อยตามง่ายขนาดนั้นนะ อย่างงี้เขาก็ร้ายไม่ออกสิ?  

    จากนั้นมันก็มีคำถามตามมาให้พระเอกคิดไม่ตก สมองคนรวยเร่งประมวลผลพร้อมใส่จุดทศนิยมกำลังสาม …เธอก็ไม่ได้ชอบเขา เขาก็ไม่ชอบเธอ แต่ทำไมในหัวของเขาถึงมีแต่ฮวาจิ่น แล้วมันน่ารักมากเวลาเขาบรรยายถึงพระเอกเวลาอยู่คนเดียว จะมีคำนึงที่พระเอกใช้บ่อยเวลาคิดถึงอีกฝ่าย ใจเกิดซัมติงขึ้น แต่ยังไม่ถึงเวลายอมรับ พี่แกจะพูดว่า ‘สงสัยไอคิวตก’ ชายอยากให้ทุกคนได้อ่านจริงๆ บอกเลยว่า…บทพระเอกแบบนี้ถูกใจแม่ยกไทย สำหรับชายมีแต่คำชมจนไม่สามารถเอามาเล่าให้ฟังได้ทั้งหมด ยิ่งได้เป็นแฟนกันแล้วนะพ่อประคุณเอ๋ย ยกให้เป็นพระเอกที่สุดของเรื่องอวดแฟน ขยันหูแดงรายวัน แค่นี้พอ ชายจะไม่พูดถึง มันดรี 

    ความน่าสนใจอีกหนึ่งข้อ เขาใส่วิชาชีพ ‘สู่ซิ่ว’ หรืองานปักผ้าด้วยมือของคนจีนเข้ามาประกอบเป็นอรรถรส ซึ่งในส่วนนี้ไม่ได้ใส่มาเพื่อชูให้นางเอกมีงานทำหรือสักแต่ขายงานปักผ้าจนกลายเป็นนิยายชวนหลับ แต่มันจะมีเรื่องราวของลูกค้าของนางเอกเข้ามาเพิ่มความอินเล็กๆ ให้กับเรา มีอยู่ 2-3 เคสที่ชายอ่านแล้วชอบ ยกตัวอย่างคุณลุงที่สั่งผ้านวมแดงปักลายเพื่อมอบให้กับภรรยาที่ป่วยอยู่ในโรงพยาบาล ความจนเป็นแบบไหน ความรักคืออะไร เคสนี้อ่านจบแล้วมันจุกในอกเรา 

    หรือจะเป็นคู่รักนักธุรกิจวัยเลยเกษียณแอบทำเซอร์ไพรส์ให้กัน ปากบอกว่ายัยแก่บ้านฉันเรื่องมาก แต่แววตาและการทุ่มเทเดินทางมาที่ร้านเพื่อสั่งรองเท้าคู่หนึ่ง ถ้าไม่ใช่เพราะความรักที่มีให้กับภรรยา เขาคงไม่มาด้วยตัวเอง หรือจะเป็นการตามหาลายปักแพนด้าน้อยบนผ้าเช็ดหน้า เพื่อประทับตราความทรงจำไม่ให้เลือนหายไปกับกาลเวลาที่ล่วงผ่าน 

    ถ้าเกิดใครได้อ่านเรื่องราวของพวกเขา ชายว่าหลายคนจะมีน้ำตาเล็กๆ ให้กับความรักของผู้สูงวัย นางเอกจึงเป็นเหมือนผู้สานฝันให้กับผู้ซื้อ ขณะที่เธอเองได้ใช้เวลาปักของชนิดหนึ่งไว้เพื่อมอบให้กับผู้ชายคนหนึ่ง เขาเป็นคนเหมือนแสงสว่างในชีวิตสำหรับเธอ อีกทั้งยังเป็นคนเดียวกับที่เธอตามหาร่องรอยของเขามาโดยตลอด คำถามคือแล้วคนๆ นั้นเป็นใครกัน 

    ทิ้งท้ายกับคุณชาย

    เรื่องนี้ตอนอ่านอยู่ชายชอบมากนะ แต่พอจะเขียนรีวิว ขอฟ้องไว้ตรงนี้เลยว่าเขียนรีวิวยาก ด้วยตัวนิยายมันมีปริศนาสำคัญผูกไว้กับตัวละครนางเอกค่อนข้างเยอะ เหมือนกับเป็นตัวละครที่มีสองร่าง ร่างแรกฝังอยู่ในอดีต ออกกลิ่นดราม่าชีวิตเล็กๆ นิยายจีนหลายเรื่องมักเขียนถึงมุมมองของลูกผู้หญิงที่มีต่อครอบครัวด้านลบ เวลาเราอ่านเจอเราจะสะท้อนใจเบาๆ ไปกับสิ่งที่ตัวละครนั้นๆ เผชิญอยู่ ต้องเก็บกดขนาดไหนถึงต้องใช้พิมพ์ว่า สังคมถ้าไม่ถูกแบ่งด้วยศักดินาก็ต้องถูกพ่อแม่แบ่งให้ต่างกัน ถ้าตีความตามประสาบ้านเราเปรียบได้กับลูกคนโตลูกคนเล็กคือแก้วตาดวงใจ ส่วนคนรองกับคนต่อมาคือมือเท้า ปมนางเอกจะอยู่ตรงนี้ด้วย ฝังลึกพอสมควร เพราะสามารถทำให้น้ำตาเราแตกเป็นสายพร้อมกับพระเอกในตอนที่รู้ความจริง  ส่วนร่างที่สองคือความเป็นนางเอกสายหยอดพระเอก ไม่มีคราบของความอ่อนแอให้เห็น กุ๊กกิ๊กกันน่ารักจนอยากตบหนังสือแช่ง!! เราจะไม่พูดถึง รู้สึกไอคิวตก 

    เอาเป็นว่าชายชอบ ให้คะแนนไว้สูงถึง 8.5 คะแนน ชอบความคิดที่เป็นผู้ใหญ่ของตัวละคร ชอบความขมๆ ของชีวิตนางเอกในฉากหลัง บทขายขนมจีบดี บทดูแลกันในฐานะแฟนดี ยิ่งบทพระเอกหลังจากได้รับตำแหน่งคุณแฟนแล้ว แม่เอ๋ยแม่เอยยย เกินจะบรรยายได้ว่ามันฮาขนาดไหน อารมณ์แบบเขาโสดมาจนอายุปูนนี้ ต้องวิดิโอคอล วีแชต คิสกันผ่านจอ ไร้สาระ… แต่…….พี่ทำไม พี่ก็ทำหมดนะ เหนือสิ่งอื่นใดคือสำนวนนักเขียน แม้จะเป็นนิยายธีมรักปัจจุบัน แต่เยว่เซี่ยยังคงลายเซ็นของตัวเขาไว้ด้วยการนำลูกคำ คำสำนวนมาใช้กับบทสนทนาหรือฉากบรรยายอย่างถูกสถานการณ์ อย่างตอนพระเอกว่านางเอกเป็นพวกหมูปีนต้นไม้, ยอมก้มหัวให้ข้าวสารห้าโต่ว, เศษสี่ปัดทิ้งเศษห้าปัดขึ้นก็นับว่าเป็นเพื่อน ฯล คลังสำนวนเยอะ คล้ายได้อ่านงานจีนโบราณผสมกับจีนปัจจุบัน 

    ในส่วนของนักแปลทั้งสองคน ดูจากการถอดภาษาบ่งบอกอายุมาก  น่าจะมีชั่วโมงบินด้านภาษาสูง ใช้คำได้หลากหลาย ชายชอบเวลาเขาใช้รูปคำอย่างจำพวกคำที่เป็นภาษาพูดแบบไม่ทางการ …ดีออก ตะเภาเดียวกันทั้งบ้าน ฯล แปลดีทั้งสองเล่ม ชายขอชม อย่างตอนเขาแปลช่วงบทสำคัญของเรื่อง เขาก็ถอดคำออกมาได้สวยมาก เช่น..ตอนนางเอกมีความลังเลบางอย่างพระเอกก็พูดแทรกขึ้นมา ‘ถ้าคุณเผลอทำผมหลุดมือไป คุณแค่ยืนอยู่ที่เดิม ผมจะเป็นคนกลับมาหาคุณเอง’ หรือตอนนางเอกพูดว่า… ‘ในนี้เล็กมาก(ชี้ที่หัวใจ)…มีไว้ใส่ผู้ชายหน้าไม่อายแค่คนเดียว’ 

    อีกอย่างที่ชายคิดว่ามีส่วนทำให้นิยายสนุกขึ้นอีกเท่าตัวคือ ‘ภาษากาย’ พระนางส่วนใหญ่จะใช้คำพูดล้อกันบ่อย แต่ถ้าอยากรู้ว่าเขารู้สึกยังไงให้ดูจากภาษากาย อย่างตอนเปิดตัวเป็นแฟนครั้งแรกต่อหน้าประชาโลก เดินๆ อยู่นางเอกปล่อยมือแล้วพระเอกงอน เขาก็จะบรรยายให้เราเห็นความน้อยใจในดวงตาพระเอก ท่าทางคอหักเหมือนปลาทูมันเป็นแบบไหน จากนั้นเขาก็ใส่บทบรรยายต่อเนื่องลงมาเสริม.. นางเอกพอเห็นอีกฝ่ายน้อยใจ เธอเลยเลือกกำสองนิ้วของเขาเอาไว้โดยไม่ปล่อยไปแบบครั้งแรก แล้วไอ้กำสองนิ้วมันคือกำแบบไหน ถ้าใครดูซีรีส์บ่อยจะนึกภาพออก เมื่อวานชายลองพิสูจน์กับอ๋องหลังจวนแล้วได้ผล… โดนไล่ออกจากจวนแทบไม่ทัน บทรักของเยว่เซี่ยเรื่องนี้ เน้นการสื่อสารมากกว่าคำพูด รีวิวนี้จึงมีแต่อวยและอวยเท่านั้น พอเนอะโม้เยอะแล้ว สนุก ชอบ แค่นี้แหละที่อยากบอก ข้อติมีแค่รวบเรื่องไปเร็วตอนท้าย จบปมในใจนางเอกปุ๊บ บทพิเศษแถมมานิดเดียว มันไม่พอ!! มันขัดใจชาย!! 

    จบไปแล้วกับ รีวิว ปักรักลายบุปผา ขอขอบคุณรีวิวดีๆ จากเพจ คุณชายรีวิวหนังสือ อีกเช่นเคยนะคะ นิยายเรื่อง ปักรักลายบุปผา นั้นไม่ได้สะท้อนแค่มุมมองความสัมพันธ์ของพระนาง แต่ยังมีวัฒนธรรมและค่านิยมของจีนอยู่ด้วยที่ทำให้เราได้รู้จักประเทศนี้ได้มากขึ้น ใครที่ชื่นชอบประเทศจีนอยู่แล้วนี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ไม่ควรพลาดนิยายเรื่องนี้เพราะนี้ไม่ใช่แค่นิยายรักธรรมดาค่ะ และพบกับบทความดีๆ รีวิวหนังสือโดนๆ จาก article.reeeed.com ได้ใหม่ขอบคุณนักอ่านทุกท่านนะคะ

    คุณชายรีวิวหนังสือ
    คุณชายรีวิวหนังสือ
    ชายเป็นอ๋องรูปงามหลงยุค ชื่นชอบนิยายดุจจิตวิญญาณ โดยเฉพาะนิยายรัก ๆ น้ำเน่าเงาจันทร์ เพราะเราต้องการที่พักเหนื่อยมากกว่าอ่านหนังสือสะท้อนชีวิตชวนเครียด พระเอกต้องดี นางเอกต้องเก่งสเลนเดอร์ รักในงานภาษาสละสลวย ทั้งงานเขียนไทย แปลจีนโบราณ งานวายไม่มีเรทรุนแรง งานแปลอังกฤษ อ่านได้หลากหลายสายหลายแนว ขอแค่ชายมีตังค์ ภายใต้สโลแกน #เชื่อชายแล้วไตจะเบา #เชื่อชายแล้วจะไม่มีกองดอง

    บทความล่าสุด

    เดล คาร์เนกี (Dale Carnegie) นักเขียนผู้พัฒนาศาสตร์แห่งการสื่อสารและสร้างสัมพันธ์

    เดล คาร์เนกี (Dale Carnegie) นักเขียนผู้มีผลงานมุ่งเน้นในการเสริมสร้างความสัมพันธ์และบุคลิกภาพที่ดีให้แก่ผู้คนที่พบปัญหาด้านนี้ พร้อมทั้งได้สร้างงานเขียนและสถาบันที่ส่งเสริมให้คนมีความมั่นใจในตนเองได้มากขึ้น

    รีวิว เราจะเป็นแดดจ้า ในวันที่ฟ้ามีเมฆมาก

    รีวิว "เราจะเป็นแดดจ้า ในวันที่ฟ้ามีเมฆมาก" จากนักวาดภาพประกอบแพซ็องแท ที่มีผู้ติดตามกว่า 100000 คนจะมาบอกเล่าเรื่องราวความรักและชีวิตคู่ของเขาและภรรยาพร้อมกับแมวอีกสองตัว ให้คุณได้สมัผัสความอบอุ่นของความรักที่งดงาม

    อ่านตาม เยริ (Yeri) น้องสาวคนเล็กจาก red velvet

    อ่านตาม เยริ (Yeri) น้องเล็กของ red velvet ที่มากด้วยความสามารถและเสน่ห์ที่ใครๆ ต่างก็หลงใหลพร้อมๆ กับชั้นหนังสือที่เธอได้อ่านที่มีความน่าสนใจและน่าติดตามไม่แพ้กัน จะมีเล่มไหนบ้างติดตามได้ในบทความนี้

    Battle of Stalingrad หนึ่งในสมรภูมิชี้ชะตาในสงครามโลกครั้งที่ 2

    ยุทธการที่สตาลินกราด (Battle of Stalingrad) หนึ่งในสมรภูมิที่ยากลำบากที่สุดในการต่อสู่ระหว่างมนุษย์ หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญอันนำมาสู่การตัดสินชี้ขาดของสงครามโลกครั้งที่และการสูญเสียเหลือคณานับ
    - Advertisement -spot_imgspot_img

    รู้จัก “โรคไต” กับ 150 ข้อควรรู้เกี่ยวกับภัยร้ายที่ถูกมองข้าม

    โรคไต หนึ่งในโรคร้ายที่มีผู้ป่วยมากมายพบปัญหากับโรคนี้ในปัจจุบัน ทำให้ใช้ชีวิตได้อย่างยากลำบาก มาทำความรู้จักโรคไตกันลึกซึ้ง พร้อมหนังสือแนะนำสำหรับดูแลตนเองเมื่อป่วยเป็นโรคไตและหลีกเลี่ยงโรคนี้

    อ็องเดร ฌีด (André Gide) นักเขียนรางวัลโนเบลผู้ให้ความสนใจปัญหาสังคมและวัฒนธรรมฝรั่งเศส

    อ็องเดร ฌีด (André Gide) เนักเขียนชาวฝรั่งเศสผู้ชื่นชอบการสำรวจ แสวงหาความหมายและคุณค่าของชีวิต ตลอดจนกระทั่งปัญหาสังคมในชีวิตประจำวันของฝรั่งเศส ทั้งยังนำเอาเรื่องราวเหล่านั้นสร้างสรรค์ผลงานจนได้รับรางวัลโนเบลในเวลาต่อมา

    บทความแนะนำ

    เดล คาร์เนกี (Dale Carnegie) นักเขียนผู้พัฒนาศาสตร์แห่งการสื่อสารและสร้างสัมพันธ์

    เดล คาร์เนกี (Dale Carnegie) นักเขียนผู้มีผลงานมุ่งเน้นในการเสริมสร้างความสัมพันธ์และบุคลิกภาพที่ดีให้แก่ผู้คนที่พบปัญหาด้านนี้ พร้อมทั้งได้สร้างงานเขียนและสถาบันที่ส่งเสริมให้คนมีความมั่นใจในตนเองได้มากขึ้น

    รีวิว เราจะเป็นแดดจ้า ในวันที่ฟ้ามีเมฆมาก

    รีวิว "เราจะเป็นแดดจ้า ในวันที่ฟ้ามีเมฆมาก" จากนักวาดภาพประกอบแพซ็องแท ที่มีผู้ติดตามกว่า 100000 คนจะมาบอกเล่าเรื่องราวความรักและชีวิตคู่ของเขาและภรรยาพร้อมกับแมวอีกสองตัว ให้คุณได้สมัผัสความอบอุ่นของความรักที่งดงาม
    - Advertisement -spot_img

    เราคิดว่าคุณน่าจะชอบRELATED