รีวิว “ร้านไม่สะดวกซื้อของคุณทกโก” พาคุณไปพักใจกับร้านไม่สะดวกซื้อ

หนังสือที่เราจะหยิบมารีวิวกันในวันนี้นั้นเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเล่มที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างกว้างขวางและมีการกล่าวถึงมากมาย ทั้งยังติดอันดับขายดีในร้านหนังสือคโยโบนานถึง 32 สัปดาห์ หนังสือเล่มนี้คือ “ร้านไม่สะดวกซื้อของคุณทกโก” ที่จะพาคุณไปดื่มด่ำกับเรื่องราวร้านขายของเล็กๆ แต่เป็นดั่งสถานที่พักใจให้กับผู้คนมากมายที่แวะเวียนกันเข้ามา ร้านขายของเล็กๆ ที่ไม่ทันสมัยแต่กลับเป็นศาลาพักใจให้หลายๆ คนหายเหนื่อย รีวิวโดยคุณ 85mm ที่จะมาบอกเล่าถึงเรื่องราวภายในร้านของหนังสือเล่มนี้ใน รีวิว “ร้านไม่สะดวกซื้อของคุณทกโก”

รีวิว “ร้านไม่สะดวกซื้อของคุณทกโก” ร้านขายของที่ไม่สะดวกขายแต่สะดวกใจคนที่มาเยือน

ชีวิตคนเรามันก็ต้องมีวันที่เรารู้สึก ‘ไม่สะดวก’ อยู่บ้างแต่หากมองให้ดีแล้ว เราจะเจอเรื่องราวดีๆ อยู่ข้างในนั้นเอง

‘ร้านไม่สะดวกซื้อของคุณทกโก’ แค่ชื่อนี้ก็ทำให้เรารู้สึกคันยุบยิบ อยากรู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร แล้วทำไมถึงต้องเป็น ‘ไม่สะดวกซื้อ’ ด้วยนะ เล่าโทนเรื่องก่อนว่าที่จริงร้านนี้คือเป็นร้านสะดวกซื้อปกติทั่วไปเนี่ยแหละ มีชื่อร้านว่า always บริหารร้านโดยคุณนายเจ้าของร้าน ตอนแรกก็ทำรายได้ดี แต่เมื่อเศรษฐกิจในละแวกดีขึ้น บริเวณใกล้เคียงก็มีร้านสะดวกซื้อมาเปิดกันให้พรึบ แถมทำโปรโมชั่นต่อสู้เชือดเฉือนกันกระจุยกระจาย ในขณะที่ always ของคุณนายเองไม่ได้ลงไปอยู่ในศึกแข่งลดราคาเหมือนเช่นร้านอื่นๆ บวกกับของในร้านมีตัวเลือกให้ซื้อไม่เยอะ ทำให้คนในละแวกพากันเรียกว่าร้านแห่งนี้เป็นร้านไม่สะดวกซื้อ

ความน่าสนใจของเรื่องคงหนีไม่พ้น ‘คุณทกโก’ ของเรื่องนี้ พื้นเพของเขาไม่ได้เป็นเจ้าของร้านมาตั้งแต่ต้น เขาเป็นเพียงพนักงานคนหนึ่งเท่านั้นเอง แต่ก่อนที่เขาจะเข้ามาทำงานที่นี่ ทกโกเป็นเพียงคนไร้บ้านความจำเสื่อมคนหนึ่งเท่านั้น คนที่ใช้ชีวิตแบบไม่มีหลักแหล่งไปวันๆ มีเหตุการณ์ที่ทำให้ได้รู้จักกับคุณนายเจ้าของร้าน ตอนแรกๆ คุณนายเองก็ไม่มั่นใจ เพราะความคิดปกติทั่วไปที่มีต่อคนไร้บ้านก็แทบจะไปในทางลบอยู่แล้ว แต่หลังจากพบกันหลายครั้งทกโกก็ได้ทำลายอคติของคนไร้บ้านในใจคุณนายไปหมดสิ้น ด้วยความเมตตาคุณนายเลยให้โอกาสทกโกได้เข้ามาทำงานที่ร้านโดยประจำอยู่กะดึก

“และถึงแม้ว่าร้านแห่งนี้จะไม่ค่อยสะดวกสบายกับผู้มาใช้บริการเท่าไหร่แต่ร้านแห่งนี้ก็ได้มอบความอบอุ่นให้กับใครหลายๆ คนที่กำลังเหน็บหนาวและต้องการคำตอบให้กับปัญหาชีวิต”

บุคลิกของทกโกเป็นชายวัยกลางคน พูดไม่เก่ง ซื่อๆ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนฉลาด ช่างสังเกตุและเป็นห่วงคนรอบข้าง ในร้านไม่สะดวกซื้อยามค่ำคืนเราจะได้เจอคนที่มีปัญหาชีวิตแวะเวียนเข้ามา ไม่ว่าจะคุณพ่อที่ทำงานหนัก จนรู้สึกต่อไม่ติดกับครอบครัว นักเขียนบทละครสาวที่หมดกำลังใจในหน้าที่การงานหรือคุณแม่ที่รู้สึกหมดหวังกับลูกชายและสามี บทสนทนายามค่ำคืนระหว่างทกโกและผู้คน ถึงแม้จะเป็นคนพูดไม่เก่ง แต่เขาได้ช่วยเยียวยาคนเหล่านี้และช่วยหาทางออกในปัญหาที่เกิดขึ้น.

ความพิเศษของเรื่องร้านไม่สะดวกซื้อของคุณทกโกนี้ คืออ่านแล้วเราได้อารมณ์ที่หลากหลาย แต่เลยมาสักประมาณครึ่งเล่ม เราจะเริ่มมีความสงสัยอีกข้อที่ผุดขึ้นมาในใจ นั้นคือ ‘คุณทกโก’ คนนี้คือใคร คือดูจากความคิดอ่านและการปฏิบัติตัวแล้ว ดูไม่เหมือนคนไร้บ้านแน่ๆ แล้ว ยิ่งอ่านไปยิ่งมั่นใจว่า ก่อนที่ทกโกจะความจำเสื่อมและกลายเป็นคนไร้บ้าน เขาจะต้องเป็นคนที่มีหน้าที่การงานที่ดีคนหนึ่งแน่ๆ แต่ทำไมชีวิตได้พัดพาทกโกมาถึงจุดนี้ได้ ถือเป็นความน่าสนใจที่นักอ่านอย่างเราจะได้ร่วมกันค้นหาไปพร้อมกันครับ

และถึงแม้ว่าทกโกจะได้ช่วยแก้ปัญหาให้กับใครหลายๆ คน ขณะเดียวกันปัญหาเหล่านั้นก็ค่อยๆ เชื่อมต่อ สะท้อนเหมือนกระจกเงา ทำให้ความทรงจำของเขาค่อยๆ กลับมาทีละนิดและเราจะทราบต้นตอสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดของคุณทกโกครับ

มีส่วนหนึ่งของเรื่องที่เราชอบมาก ในวันที่คุณทกโกตัดสินใจจะลาออกคุณนายเข้าอกเข้าใจและบอกกับเขาว่า…. “ร้านสะดวกซื้อแห่งนี้คือสถานที่ที่ผู้คนมากหน้าหลายตาเดินเข้าออก มันคือสถานที่ที่ทุกคนไม่ว่าจะลูกค้าหรือพนักงานหยุดอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะเดินต่อไป เหมือนปั๊มน้ำมันของผู้คนที่แวะมาเติมพลังให้เต็ม แต่สำหรับทกโกแล้วเขาไม่ได้แค่มาเติมน้ำมันเท่านั้น แต่ยังได้มาซ่อมรถอีกด้วย”

นิยายเรื่องร้านไม่สะดวกซื้อของคุณทกโกเรื่องนี้ เป็นอีกเล่มนี้ผมแนะนำเลย

และทั้งหมดคือรีวิว “ร้านไม่สะดวกซื้อของคุณทกโก” หนังสือที่บอกเล่าถึงร้านขายของเล็กๆ แต่กลับเป็นสถานที่ที่ให้เหล่าลูกค้าที่มาเยือนได้พักผ่อนทั้งกายใจให้หายเหนื่อยก่อนเผชิญหน้าและสู้กับปัญหาอีกครั้ง เป็นหนังสืออีกเล่มที่เรื่องราวน่าติดตามทั้งยังให้มุมมองแง่คิดการแก้ปัญหาที่น่าสนใจแม้กระทั้งที่มาที่ไปของตัวละครที่ถูกสอดใส่ไว้ให้เราติดตามถึงบทสรุปถึงตัวตนที่แท้จริงของ คุณทกโก ผู้แสนใจดีแต่เต็มไปด้วยปริศนาให้เราตามหากัน สุดท้ายนี้ขอขอบคุณเพจ 85mm ที่ได้แบ่งปั่นเรื่องราวความน่าประทับใจภายในหนังสือเล่มนี้กันนะคะ