More
    หน้าแรกหนังสือพัฒนาตนเองหนังสือ "เลิกขี้เกียจซะที" เข้าใจสาเหตุและเรียนรู้วิธีจัดการความขี้เกียจ

    หนังสือ “เลิกขี้เกียจซะที” เข้าใจสาเหตุและเรียนรู้วิธีจัดการความขี้เกียจ

    มาทำความรู้จักกับ ความขี้เกียจ อุปสรรคสำคัญในการพัฒนาตนเองหรือทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วง เรียนรู้และเข้าใจถึงสาเหตุทั้งปัจจัยภายนอกปัจจัยภายในที่ก่อให้เกิดความขี้เกียจ พร้อมสร้างแรงจูงใจเพื่อให้เราสามารถเอาชนะความขี้เกียจที่ฉุดรั้งเราเอาไว้ได้้

    -

    ปัจจัยสำคัญที่เมื่อเราได้รับมอบหมายหน้าที่บางอย่างหลายๆ ครั้งไม่สามารถทำให้สำเร็จลุล่วงไปได้ เพราะเรามักจะถูก ความขี้เกียจ เข้ามาครอบงำและไม่สามารถจัดการงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จสมบูรณ์ได้ และเป็นหนึ่งในสิ่งที่เป็นกับดักในการ พัฒนาตนเอง ของหลายๆ คน เพราะเมื่อเรารู้สึก ขี้เกียจ เราก็จะไม่มีแรงจูงใจที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ในวันนี้หนังสือที่เรานำมาให้นักอ่านได้รู้จักถือเป็นอีกหนึ่งเล่มที่อาจช่วยหลายๆ คนหลุดพ้นจากกับดักนี้กับ “เลิกขี้เกียจซะที” ที่จะมาเล่ารายละเอียดถึงที่มาที่ไปของความรู้สึกดังกล่าว รีวิวโดยเพจ รีวิวทุกอย่างที่อ่านออก ที่จะมาบอกเล่าเนื้อหาบางส่วนที่น่าสนใจของหนังสือเล่มนี้ในรีวิว “เลิกขี้เกียจซะที”

    รีวิว “เลิกขี้เกียจซะที” หนังสือที่ช่วยให้เราเข้าใจ ความขี้เกียจ และหลุดพ้นจากกับดักในการ พัฒนาตนเอง ของความรู้สึกนี้

    เลิกขี้เกียจซะที พัฒนาตนเอง ความขี้เกียจ
    เลิกขี้เกียจซะที

    ‘ไม่อยากทำอะไรเลย’ เป็นภาวะที่คนส่วนใหญ่กำลังเผชิญอยู่ในช่วงนี้ ช่วงที่หลายคนจะต้องทำงานหรือใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเป็นส่วนใหญ่ จนสุดท้ายเราจะปล่อยเวลาให้ผ่านไปเรื่อยๆ จนทำให้ทำงานที่ได้รับมอบหมายไม่สำเร็จหรือบางคนต้องมาเร่งทำงานตอนใกล้กำหนดส่งทำให้งานออกมาไม่ดีเท่าที่ควร

    หนังสือเล่มนี้บอกเล่าถึงสาเหตุเเละวิธีการเเก้ไขความขี้เกียจที่เขียนโดยแพทย์เฉพาะทางด้านการบริหารจัดการจิตใจและเป็นผู้อำนวยการศูนย์วิจัยที่ Cheongdam Harvard Psychology Center เรามองว่าหนังสือเล่มนี้น่าสนใจค่ะ เพราะปกติเราจะเคยอ่านแต่หนังสือพัฒนาตัวเองที่ผู้เขียนเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมาถ่ายทอดวิธีที่พวกเขาใช้ แต่หนังสือเล่มนี้จะมาบอกวิธีจัดการความขี้เกียจในมุมมองของแพทย์เฉพาะทางผ่านเคสจริงที่เค้าเจอเเละยังเป็นการเล่าโดยการเชื่อมโยงนิสัยของเรากับการทำงานของระบบร่างกายซึ่งนั่นน่าจะทำให้เราแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดมากขึ้น วันนี้รีวิวทุกอย่างที่อ่านออกจะพาคุณมารู้จักกับเลิกขี้เกียจซะทีค่ะ

    หลายคนอาจยังไม่เคยรู้ว่าอารมณ์หรือนิสัยในตัวเราเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความขี้เกียจ ปัญหาทางอารมณ์หรือนิสัยที่มักจะทำให้เราเกิดความขี้เกียจได้อย่างเช่น ความกังวล, ความไม่พอใจ, นิสัยวู่วาม, ความเหงา เเละการขาดเเรงจูงใจ เป็นต้น วันนี้เราจะมายกตัวอย่างปัจจัยเรื่องเเรงจูงใจสองอย่างที่ตรงข้ามกันเเต่ทำให้เกิดความขี้เกียจได้เหมือนกันมาเล่าให้ฟังค่ะ

    สาเหตุแรกคือ ‘การขาดแรงจูงใจที่จะทำให้สำเร็จ’ คนส่วนใหญ่มักจะตอบตัวเองไม่ได้ว่าสิ่งที่เราทำอยู่นั้นทำไปเพื่ออะไร ซึ่งการไม่มีแรงจูงใจที่ชัดเจนก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เราขาดความตั้งใจในการทำสิ่งต่างๆ เราสามารถแก้ได้โดยการหาแรงจูงใจใหม่ๆ ให้กับตัวเอง โดยแรงจูงใจก็มีทั้งแบบแรงจูงใจภายนอกและแรงจูงใจภายใน เช่น สามารถสร้างแรงจูงใจภายในโดยการปรับความคิดว่างานที่เรากำลังทำอยู่นั้นเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและจะสามารถทำให้เราพัฒนาความสามารถได้ในระยะยาว หรือถ้าเป็นแรงจูงใจภายนอกก็สามารถใช้เงินเดือนหรือการเลื่อนตำแหน่งมาช่วยผลักดันให้เราตั้งใจทำงาน

    อีกหนึ่งสาเหตุคือ ‘มีแรงจูงใจที่ไม่อยากล้มเหลว’ มักเกิดขึ้นเวลาที่เราอยากทำสิ่งหนึ่งแต่ก็มีความรู้สึกว่าถึงพยายามเท่าไหร่ก็ไม่น่าจะทำสิ่งนั้นได้สำเร็จ ทำให้สุดท้ายแล้วความตั้งใจนี้จะหายไปและกลายเป็นความขี้เกียจ การกลัวความล้มเหลวสามารถแก้ได้โดยการกำหนดเป้าหมายที่มีความยากแต่เรายังมีโอกาสทำสำเร็จได้อยู่ และจากงานวิจัยยังพบอีกว่าเป้าหมายที่มีความยากประมาณ 50% จะสามารถกระตุ้นแรงผลักดันในตัวเราได้ดีที่สุด

    นอกจากนี้ยังมีการอธิบายถึงความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความขี้เกียจว่าคนที่ชอบนอนเยอะอาจไม่ใช่คนที่ขี้เกียจเสมอไป แต่ในทางกลับกันการนอนพักผ่อนให้เพียงพอจะทำให้เราสามารถจัดระเบียบความคิดได้ดีมากขึ้นและยังทำให้สมองเราปลอดโปร่งพร้อมในการทำสิ่งต่างๆ เห็นได้จากนักเรียนที่อ่านหนังสือไปควบคู่กับการพักผ่อนอย่างเพียงพอในหลายครั้งสามารถทำคะแนนได้ดีกว่านักเรียนที่อดนอนเพื่อเตรียมสอบ หรือบางคนจะมองว่าคนที่ทำอะไรเฉื่อยชาเป็นคนขี้เกียจ ซึ่งนั่นอาจจะไม่จริงเสมอไปเพราะการทำอะไรอย่างช้าๆ ทีละนิดในทุกๆ วัน ในระยะยาวอาจจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการทำอะไรซักอย่างแบบหักโหมในช่วงระยะแรกแต่ทำให้เราเหนื่อยจนล้มเลิกสิ่งนั้นกลางคัน

    เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้จบสิ่งที่เราเห็นได้ชัดเจนคือเรารู้สึกว่าเราเข้าใจตัวเองและรู้ทันอารมณ์ของตัวเองได้ดีมากขึ้นค่ะ เพราะในหลายครั้งเราจะรู้สึกไม่อยากทำอะไรแต่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าสาเหตุที่ทำให้เราขี้เกียจนั้นเกิดจากอะไรกันแน่ หนังสือเล่มนี้ทำให้เรารู้ว่ามีหลายสาเหตุที่เรามักจะมองข้ามแต่มันกลับเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความขี้เกียจ นอกจากการหาสาเหตุของความขี้เกียจแล้วยังมีการแนะนำวิธีการสร้างนิสัยดีๆ ที่ทำให้เราเป็นคนขยันที่มากขึ้นในระยะยาว อีกทั้งการเล่าในหนังสือเล่มนี้ไม่ได้มีการใช้ศัพท์ทางการแพทย์ที่ซับซ้อน ส่วนใหญ่จะเป็นการเล่าเนื้อหาประกอบกับการยกตัวอย่างที่ใกล้ตัวทำให้เราสามารถนึกภาพตามได้ง่ายและวิธีการที่แนะนำให้เราทำก็ไม่ได้ยากเกินกว่าที่เราจะนำมาปรับใช้

    หนังสือเล่มนี้จึงเป็นหนังสือที่ดีอีกเล่มหนึ่งที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้อ่านและเมื่ออ่านจบเราก็ไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไมหนังสือเล่มนี้ถึงได้รับรางวัลหนังสือน่าอ่านแห่งปีโดยรัฐบาลเกาหลี เราคิดว่าสิ่งที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้มีประโยชน์สำหรับทุกคนที่เหมาะจะนำไปปรับใช้กับการดำเนินชีวิตของตัวเอง โดยอาจจะเริ่มจากการนำวิธีการสักหนึ่งอย่างที่คิดว่าเข้ากับตัวเรามากที่สุดมาลองปรับใช้ดูก่อนก็ได้ค่ะ เมื่อทำสำเร็จก็ค่อยนำวิธีการอื่นๆมาปรับใช้ต่อไป

    เลิกขี้เกียจซะที พัฒนาตนเอง ความขี้เกียจ
    เลิกขี้เกียจซะที

    Score Explanation
    Writing Style: 8/10
    เพราะ มีการเล่าเนื้อหาประกอบกับการยกตัวอย่างประกอบอยู่ตลอดทำให้นึกภาพตามได้ง่ายเเละมีการสรุปท้ายบทเพื่อเน้นสิ่งที่สำคัญไว้ให้
    Time worthiness: 9/10
    เนื้อหาในหนังสือไม่มากไม่น้อยเกินไป และสื่อใจความออกมาได้กระชับ
    Content Usefulness: 10/10
    เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้มีประโยชน์กับผู้อ่านทุกคนเเละวิธีที่เเนะนำให้ทำก็ไม่ยากจนเกินไปทุกคนสามารถทำตามได้

    ทั้งหมดคือรีวิวหนังสือ “เลิกขี้เกียจซะที” หนังสือที่จะมาเล่าถึงความขี้เกียจว่ามีที่มาอย่างไรและในบางครั้งความขี้เกียจก็เกิดจากปัจจัยที่เราควบคุมได้ทำให้เราสามารถหาทางจัดการได้ง่ายขึ้นเมื่อรู้ถึงสาเหตุของสิ่งนี้ หวังว่าหนังสือเล่มนี้จะช่วยใครหลายๆ คนเอาชนะความขี้เกียจได้นะคะ และขอขอบคุณเพจ รีวิวทุกอย่างที่อ่านออก ที่นำเอาหนังสือดีๆ น่าสนใจเล่มนี้มารีวิวกันหลายคนคงโดนป้ายยาก็อย่าลืมตามไปอ่านเล่มเต็มๆกันนะคะ

    ซื้อหนังสือ เลิกขี้เกียจซะที

    รีวิวทุกอย่างที่อ่านออก
    รีวิวทุกอย่างที่อ่านออก
    รีวิวทุกอย่างที่อ่านออก คนชอบอ่านหนังสือที่เริ่มต้นมาจากอยากทำสรุปให้ตัวเองอ่าน เพราะอ่านแล้วลืมว่าหนังสือเล่มนี้ดียังไง จนมาถึงเพจที่มีผู้ติดตามหลายหมื่น มาร่วมสังคมรักการอ่านด้วยกันนะคะ :)

    บทความล่าสุด

    รีวิว เราจะเป็นแดดจ้า ในวันที่ฟ้ามีเมฆมาก

    รีวิว "เราจะเป็นแดดจ้า ในวันที่ฟ้ามีเมฆมาก" จากนักวาดภาพประกอบแพซ็องแท ที่มีผู้ติดตามกว่า 100000 คนจะมาบอกเล่าเรื่องราวความรักและชีวิตคู่ของเขาและภรรยาพร้อมกับแมวอีกสองตัว ให้คุณได้สมัผัสความอบอุ่นของความรักที่งดงาม

    อ่านตาม เยริ (Yeri) น้องสาวคนเล็กจาก red velvet

    อ่านตาม เยริ (Yeri) น้องเล็กของ red velvet ที่มากด้วยความสามารถและเสน่ห์ที่ใครๆ ต่างก็หลงใหลพร้อมๆ กับชั้นหนังสือที่เธอได้อ่านที่มีความน่าสนใจและน่าติดตามไม่แพ้กัน จะมีเล่มไหนบ้างติดตามได้ในบทความนี้

    Battle of Stalingrad หนึ่งในสมรภูมิชี้ชะตาในสงครามโลกครั้งที่ 2

    ยุทธการที่สตาลินกราด (Battle of Stalingrad) หนึ่งในสมรภูมิที่ยากลำบากที่สุดในการต่อสู่ระหว่างมนุษย์ หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญอันนำมาสู่การตัดสินชี้ขาดของสงครามโลกครั้งที่และการสูญเสียเหลือคณานับ

    รู้จัก “โรคไต” กับ 150 ข้อควรรู้เกี่ยวกับภัยร้ายที่ถูกมองข้าม

    โรคไต หนึ่งในโรคร้ายที่มีผู้ป่วยมากมายพบปัญหากับโรคนี้ในปัจจุบัน ทำให้ใช้ชีวิตได้อย่างยากลำบาก มาทำความรู้จักโรคไตกันลึกซึ้ง พร้อมหนังสือแนะนำสำหรับดูแลตนเองเมื่อป่วยเป็นโรคไตและหลีกเลี่ยงโรคนี้
    - Advertisement -spot_imgspot_img

    อ็องเดร ฌีด (André Gide) นักเขียนรางวัลโนเบลผู้ให้ความสนใจปัญหาสังคมและวัฒนธรรมฝรั่งเศส

    อ็องเดร ฌีด (André Gide) เนักเขียนชาวฝรั่งเศสผู้ชื่นชอบการสำรวจ แสวงหาความหมายและคุณค่าของชีวิต ตลอดจนกระทั่งปัญหาสังคมในชีวิตประจำวันของฝรั่งเศส ทั้งยังนำเอาเรื่องราวเหล่านั้นสร้างสรรค์ผลงานจนได้รับรางวัลโนเบลในเวลาต่อมา

    เล่มโปรดของ Wonwoo สมาชิกผู้รังสรรค์บทเพลงจาก SEVENTEEN

    เล่มโปรดของ Wonwoo สมาชิกคนสำคัญของ SEVENTEEN ที่คอยรังสรรค์บทเพลงเพื่อเติมเต็มผลงานของวง มาดูกันว่ามีเล่มไหนบ้างที่ถูกอ่านโดย wonwoo และเขาชื่นชอบพร้อมแนะนำทุกคนลงโชเชียลมีเดียร์

    บทความแนะนำ

    รีวิว เราจะเป็นแดดจ้า ในวันที่ฟ้ามีเมฆมาก

    รีวิว "เราจะเป็นแดดจ้า ในวันที่ฟ้ามีเมฆมาก" จากนักวาดภาพประกอบแพซ็องแท ที่มีผู้ติดตามกว่า 100000 คนจะมาบอกเล่าเรื่องราวความรักและชีวิตคู่ของเขาและภรรยาพร้อมกับแมวอีกสองตัว ให้คุณได้สมัผัสความอบอุ่นของความรักที่งดงาม

    อ่านตาม เยริ (Yeri) น้องสาวคนเล็กจาก red velvet

    อ่านตาม เยริ (Yeri) น้องเล็กของ red velvet ที่มากด้วยความสามารถและเสน่ห์ที่ใครๆ ต่างก็หลงใหลพร้อมๆ กับชั้นหนังสือที่เธอได้อ่านที่มีความน่าสนใจและน่าติดตามไม่แพ้กัน จะมีเล่มไหนบ้างติดตามได้ในบทความนี้
    - Advertisement -spot_img

    เราคิดว่าคุณน่าจะชอบRELATED