เข้าใจและส่งเสริม”พัฒนาการเด็ก”ผ่าน”หนังสือเด็ก”สำหรับผู้ใหญ่

ในปัจจุบัน“พัฒนาการเด็ก”เป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะการเติบโตในวัยทารกและวัยเด็กนั้นพัฒนาการด้านสมองถูกพัฒนาอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นการสร้าง“พัฒนาการเด็ก”ตั้งแต่เนิ่นๆจะเป็นเหมือนพื้นฐานต่อการเติบโตของเด็กคนนั้นต่อไป และเพราะความสำคัญนี้การหาสื่อที่ดีและเหมาะสมจึงจำเป็นสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่จะคัดกรองว่าสิ่งไหนเหมาะสมและดีที่สุดสำหรับบุตรหลานของเรา วันนี้เรามี“หนังสือเด็ก”ที่เหมาะสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่ต้องการสร้างพัฒนาการที่ดีมีประสิทธิภาพตั้งแต่ตัวน้อยๆเพื่อปูทางไปสู่พัฒนาการในวันข้างหน้า สำหรับ“หนังสือเด็ก”ที่เราแนะนำนั้นทุกเล่มต่างมีเนื้อหาส่งเสริมที่แตกต่างกันไปทั้งเข้าใจเด็กๆมากขึ้น เสริมสร้างสมาธิเจ้าตัวน้อยหรือวิธีฝึกสมองตั้งแต่วัย 5 ขวบ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเหล่านี้จะมีส่วนช่วยผู้อ่านให้เลี้ยงดูบุตรหลานได้อย่างดียิ่งขึ้น

แนะนำหนังสือส่งเสริมพัฒนาการเด็ก เริ่มต้นได้ตั้งแต่ 0 ขวบ

สำรวจใจเราเข้าถึงใจลูก

เหมือนกับภูเขาน้ำแข็ง ส่วนที่มองเห็นภายนอกเป็นเพียงยอดเล็กจิ๋ว ตัวตนที่แท้จริงนั้นจะอยู่ใต้ผิวน้ำ ถ้าได้สำรวจด้วยวิธีที่ถูกต้อง ถูกเวลาและจังหวะ ภูเขาน้ำแข็งก็เจาะได้ไม่ยาก ซึ่งเครื่องมือสำรวจภูเขาน้ำแข็งที่มีประสิทธิภาพที่สุดก็คือ บทสนาที่ดีนั่นเอง

การพูดคุยกับคนอื่นเป็นเรื่องพื้นฐานที่เราทำในชีวิตประจำวัน แต่หลายครั้งสิ่งที่เราพูดกลับไม่ได้ผลตามที่ใจหวังโดยเฉพาะเวลาที่พูดคุยกับคนที่เรารักใคร่สนิทสนม บางครั้งเราก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงให้เหมาะสม พูดยังไงถึงจะไม่ทำให้คนฟังเสียใจ พูดยังไงถึงจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ได้

หนังสือเล่มนี้คือหนังสือแนะนำวิธีการพูดคุยเพื่อสร้างความเข้าใจ ทั้งเข้าใจตัวเองและเข้าใจคู่สนทนา ถ้าเราสามารถเจาะเข้าไปภายในภูเขาน้ำแข็งได้ก็จะได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของคนคนนั้น ซึ่งจะนำไปสู่ความเห็นอกเห็นใจ ลดความขัดแย้ง หรืออาจจะช่วยเหลืออีกฝ่ายได้ด้วย

หลี่ฉงเจี้ยน ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญทฤษฎีซาเทียร์คนหนึ่ง ความรู้ของเขามาจากการศึกษา ฝึกฝนและนำไปใช้อย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างที่ยกมาในเล่มนี้เป็นประสบการณ์จริงของเขา ซึ่งอาจจะใกล้เคียงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนอ่าน ทำให้สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง โดยเนื้อหาในเล่มจะยกตัวอย่างกรณีของเด็กๆ เป็นหลัก เพราะพ่อแม่และครูมักจะประสบปัญหาที่ไม่เข้าใจว่าเด็กแสดงพฤติกรรมต่างๆ เพราะอะไร เช่น ร้องไห้ ฉุนเฉียว กระทืบเท้า ฯลฯ และยังมีเนื้อหาที่พูดถึงบทสนทนาสำหรับตัวเอง พี่น้อง และคู่รักอีกด้วย เรียกว่าสามารถนำไปปรับใช้ได้ทุกเพศทุกวัยเลยค่ะ

ทดลองอ่านได้ที่ https://bit.ly/34WjRMf

สมาธิดีเริ่มต้นที่ 0 ขวบ

หนังสือที่รวบรวม 60 พฤติกรรมน่าหนักใจของเด็กอายุตั้งแต่ 0-6 ขวบและ 6 ขวบขึ้นไป เป็นพฤติกรรมที่เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนจะต้องเคยเจอแน่นอน เช่น งอแง เลือกกิน ไม่ยอมทักทายคนอื่น พูดโกหก ช่างสรรหาข้ออ้าง อยู่นิ่งไม่ได้แพ้ไม่เป็น ฯลฯ พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนเกี่ยวข้องกับสมาธิของเด็ก ผู้เขียนได้วิเคราะห์พฤติกรรมแต่ละอย่างของเด็กไว้อย่างละเอียด เพื่อให้เราเข้าใจว่าทำไมเด็กจึงทำเช่นนั้น พร้อมกับแนะนำวิธีรับมือกับพฤติกรรมต่างๆ ไว้ด้วย

นอกจากนี้เนื้อหาภายในเล่มมีการเสนอเกมให้ผู้ใหญ่เล่นกับเด็กและแก้ไขปัญหาขาดสมาธิของเด็ก โดยเสริมสมาธิทั้งด้านการมอง การฟัง การเคลื่อนไหวและอารมณ์ พร้อมทั้งยกตัวอย่างเด็กขาดสมาธิ 20 คนมาให้อ่าน เพื่อให้เห็นปัญหาและวิธีแก้ไขที่ชัดเจนยิ่งขึ้น นับว่าเป็นคู่มือที่ดีในการทำความเข้าใจเจ้าตัวน้อย สามารถช่วยให้คุณเหนื่อยน้อยลง แต่เลี้ยงลูกได้ดีขึ้นค่ะ

ทดลองอ่านได้ที่ https://bit.ly/33JZjFX

ฝึกสมองลูก 5 ปี ได้ดีตลอดชีวิต

เค็น โมะงิ นักวิจัยด้านสมองชาวญี่ปุ่นผู้เขียนหนังสือเล่มนี้บอกไว้ว่า จงค้นหาสมบัติที่ซ่อนอยู่ในตัวเด็กแต่ละคนให้เจอ เพื่อที่เราจะได้พัฒนาเด็กไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์และเหมาะสม สิ่งสำคัญคือต้องเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงอายุ 0-5 ขวบ ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาทองที่สมองของเด็กจะพัฒนาสูงสุดและเป็นรากฐานที่มีประโยชน์ต่อเด็กไปตลอดชีวิต  

ช่วงอายุ 0-5 ขวบนั้นจะมีการสร้างวงจรการหลั่งสารโดพามีนให้ได้มากที่สุด ซึ่งสารโดพามีนเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการพัฒนาสมองและความฉลาด ทำให้เด็กสนใจสิ่งรอบตัว อยากเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และนั่นจะนำไปสู่ความสามารถในการค้นหาสมบัติในตัวเอง ซึ่งก็คือความถนัด สิ่งที่อยากเรียน เด็กจะจดจ่อกับสิ่งนั้นได้ดีในช่วงนี้

หนังสือเล่มนี้บอกเล่าถึงที่มา ขั้นตอนและผลที่จะเกิดขึ้นของกระบวนการพัฒนาสมอง อธิบายถึงสิ่งที่มีผลกระทบต่างๆ ทั้งเรื่องของระบบการศึกษา สภาพแวดล้อม และความสัมพันธ์ในครอบครัว เนื้อหาในเล่มให้คำแนะนำรอบด้าน ทั้งเรื่องการสอน วิธีการเล่น วิธีการจัดกิจกรรมที่จะช่วยให้เด็กพัฒนาอย่างก้าวกระโดด รวมไปถึงวิธีช่วยกระตุ้นการพัฒนาสมอง บอกเลยว่าพ่อแม่สามารถใช้เล่มนี้เป็นเคล็ดลับการเลี้ยงลูกได้เลย อย่าลืมมาให้ความสำคัญกับช่วงเวลาทอง 5 ปีแรกของเด็ก เพื่อให้เขามีรากฐานที่ดีไปตลอดชีวิตนะคะ

ทดลองอ่านได้ที่ https://bit.ly/3p66Ne4

รับมือกับลูกขี้โมโห

แน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้ลูกเป็นคนขี้โมโห นอกจากจะทำให้พ่อแม่ต้องปวดหัวแล้ว บางครั้งอาจจะกระทบกับการใช้ชีวิต การเข้าสังคมร่วมกับผู้อื่นด้วย แต่ถ้าลูกน้อยของเราเป็นคนขี้โมโหขึ้นมา เมื่อเขาแสดงอาการไม่น่ารัก เหวี่ยงคนรอบข้าง แล้วจะทำยังไงดีล่ะ?

หนังสือเล่มนี้มีคำแนะนำให้แน่นอนค่ะ คุณโชโกะ คันโนะ ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาได้เขียนเล่มนี้ขึ้นมาเพื่อให้พ่อแม่ได้ใช้เป็นคู่มือเลี้ยงลูกขี้โมโห ด้วยเทคนิค Anger Management หรือการบริหารจัดการอารมณ์โกรธอย่างถูกวิธี เธอเชื่อว่าทุกคนสามารถจัดการกับความโกรธที่พลุ่งพล่านภายในใจได้

เนื้อหาในเล่มจะอธิบายว่าทำไมทั้งเด็กและผู้ใหญ่จึงมีอาการโมโห บอกวิธีรับมือกับเด็กเจ้าอารมณ์และสารพัดเทคนิคสยบความโกรธ แล้วยังมีแบบฝึกหัดที่พ่อแม่และคุณครูสามารถนำไปทดลองใช้กับเด็กๆ ในชีวิตประจำวันได้ทันที ผู้เขียนตั้งใจว่าอยากจะให้ทุกคนในครอบครัวมี positive moment หรือช่วงเวลาดีๆ ร่วมกันมากขึ้น เมื่อเราเรียนรู้ที่จะจัดการกับความโกรธที่ไม่จำเป็นได้อย่างเหมาะสม

ทดลองอ่านได้ที่ https://bit.ly/3IgH0aj

หวังว่าหนังสือทั้ง 4 เล่มที่เรานำมาฝากนี้จะมีประโยชน์กับทุกคนที่ต้องเลี้ยงลูกหรือดูแลเจ้าตัวน้อย ทั้งในฐานะพ่อแม่ ผู้ปกครองหรือคุณครูนะคะ เพราะไม่ว่าเราจะอยู่ในบทบาทอะไรก็ตามสิ่งสำคัญในการดูแลเด็กนั้นก็คือความเข้าใจ และนั่นจะช่วยให้คุณเลี้ยงเขาให้เติบโตขึ้นได้อย่างสวยงาม