ไมเคิล เอ็นเด้ (Michael Andreas) หนึ่งในนักประพันธ์วรรณกรรมเด็กที่มีผู้คนชื่นชมอย่างกว้างขวางคนหนึ่ง ผลงานของไมเคิลมักเต็มไปด้วยเรื่องราวแฟนตาซีที่เข้าใจง่าย แต่ก็แฝงไปด้วยแง่คิดที่ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็อ่านได้เช่นกัน ในวันนี้เราจะพานักอ่านทุกท่านไปรู้จักกับนักเขียนท่านนี้และผมงานสร้างชื่ออย่าง The Neverending Story และ Momo and Jim Button
ประวัติ ไมเคิล เอ็นเด้ (Michael Andreas)
![ประวัติ ไมเคิล เอ็นเด้ (Michael Andreas)](https://14r979.n3cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2023/02/5290E867-A350-48BA-8020-41EEEEC5C40E.jpeg)
ไมเคิล เอ็นเด้ Michael Andreas Helmuth Ende เป็นนักเขียนชาวเยอรมันแนวแฟนตาซีและ นิยายสำหรับเด็ก เกิดเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 1929 ในเมือง การ์มิช พ่อเป็นจิตรกรแนวเซอร์เรียลิสต์ และ แม่เป็นนักกายภาพบำบัด เมื่อไมเคิลอายุได้ 6 ขวบ ครอบครัวได้ย้ายไปอยู่ที่ ย่านศิลปินในมิวนิก การเติบโตในสภาพแวดล้อมทางศิลปะและวรรณกรรมที่เข้มข้นนี้มีอิทธิพลต่องานเขียนในภายหลังของเขา
เขาเป็นที่รู้จักจากผลงานแฟนตาซีระดับมหากาพย์เรื่องThe Neverending Story (โดยดัดแปลงจากภาพยนตร์ในช่วงปี 1980 และดัดแปลงเป็นแอนิเมชั่นทางโทรทัศน์ในปี 1995); ผลงานที่เป็นที่รู้จักอื่นๆ ได้แก่ Momo and Jim Button และ Luke the Engine Driver ผลงานของเขาได้รับการแปลมากกว่า 40 ภาษา ขายได้มากกว่า 35 ล้านเล่ม
ผลงานดังของ ไมเคิล เอ็นเด้ (Michael Andreas)
The Neverending Story
![The Neverending Story](https://14r979.n3cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2023/02/4A6B21A9-6EAF-43A8-AB4F-2C26BA4CC02C.jpeg)
เรื่องราวของ บาสเตียน เด็กชายที่มีน้ำหนักเกินอย่างแปลกประหลาด บาสเตียนถูกพ่อทอดทิ้งหลังจากแม่เสียชีวิต โดยวันหนึ่งเขาถูกรังแกและได้หลบหลีเข้าไปในร้านหนังสือและวัตถุโบราณของ คาร์ล คอนราด คอแรนเดอร์ ภายในร้านเข้าได้พบกับหนังสือ The Neverending Story และรู้สึกถูกดึงดูดอย่างประหลาดจนตัดสินใจขโมยหนังสือเล่มดังกล่าว
หลังบาสเตียนได้อ่านหนังสือเล่มนั้นเขาค้นพบเรื่องราวของ Fantastica สถานที่ลึกลับที่ถูกปกครองโดยราชินีผู้น่าหลงไหล ในวันหนึ่งมีคณะผู้แทนมาหาราชินีเพื่อขอร้องให้เธอช่วยต่อต้านสิ่งที่เรียกว่า “The Nothing” แต่แพทย์ประจำจักรวรรดิได้แจ้งเหล่าผู้แทนถึงอาการป่วยของราชินีและได้ให้ อาเทร เดินทางพร้อมเหรียญที่ปกป้องเขาจากอันตรายเพื่อค้นหาผู้ทำนายซึ่งมองไม่เห็นนาม อูลลาล่า ที่อาจจะรู้วิธีรักษาราชินี และเมื่อพบอูลลาล่าเขาบอกว่าหนทางเดียวที่จะรักษาราชินีได้คือการได้รับชื่อใหม่จากมนุษย์ที่อยู่นอก Fantastica
Momo
![Momo](https://14r979.n3cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2023/02/26CF36C3-956C-4884-A4B4-9659B139B4DE-641x1024.jpeg)
ในซากปรักหักพังนอกเมืองที่ไม่มีชื่อ Momo สาวน้อยที่มีต้นกำเนิดลึกลับอาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนั้น เธอตัวคนเดียวไม่มีใครดูแลและสวมเสื้อโค้ทตัวยาวที่ใช้แล้ว เธอไม่รู้หนังสือ ไม่สามารถนับเลขได้และเธอไม่รู้ว่าเธออายุเท่าไหร่ เมื่อถูกถามเธอมักตอบว่า “เท่าที่ฉันจำได้ ฉันไปไหนมาไหนด้วยตัวเองตลอด” เธอโดดเด่นในละแวกบ้านเพราะเธอมีความสามารถพิเศษในการฟัง
เธอสามารถรับฟัผู้คนรอบตัวและช่วยพวกเขาหาคำตอบสำหรับปัญหาที่เผชิญอยู่ ไม่ว่าจะคิดเกมสนุกๆ ยามที่เบื่อ วิธีแต่งหน้าให้สวยงาม ในเมืองแห่งนี้จึงมีวลีที่ผู้คนมักพูดว่า “ไปดู Momo!” เป็นคำติดปากประจำเมือง และ momo เองก็มีเพื่อนมากมาย โดยเฉพาะเบปโป คนทำความสะอาดถนนผู้ซื่อสัตย์และเงียบขรึม
สุดท้ายนี้หากนักอ่านท่านไหนที่สนใจอยากรู้จักนักเขียนท่านอื่นๆ และบทความเกี่ยวกับหนังสือที่ดีๆ อย่าแวะเข้ามาใหม่ได้ที่ aricle.eeeed นะคะ เรามีบทความดีๆ มาอัพเดทอยู่เสมอให้นักอ่านทุกท่านเข้าใจโลกของหนังสือให้มากขึ้น เลือกจะ Read เลือก Reeeed ค่ะ