Battle of Stalingrad หนึ่งในสมรภูมิชี้ชะตาในสงครามโลกครั้งที่ 2

ในสงครามโลกครั้งที่สองนั้นได้เกิดสมรภูมิที่เป็นตำนานถูกจารึกเอาไว้หลายศึก สงครามหรือการปะทะบางแห่งนั้นนำมาซึ่งเรื่องราวความสุญเสีย บทเรียน หรือแม้แต่แสดงความกล้าหาญขอกองทัพใดกองทัพหนึ่ง ซึ่งในเหตุการณ์สำคัญครั้งหนึ่งที่ได้กลายเป็นสมรภูมิชี้ขาดก็คือ ยุทธการที่สตาลินกราด ที่เป็นการปะทะครั้งใหญ่ระหว่างโซเวียตและเยอรมัน ทั้งถูกมองว่านี้คือสงครามที่ยากลำบากและสูญเสียอย่างหนักครั้งหนึ่งของมนุษย์ เหตุการณ์ในยุทธการที่สตาลินกราดจะเป็นอย่างไรนั้นวันนี้ Reeeed จะมาสรุปให้ฟังกันค่ะ

ยุทธการที่สตาลินกราด (Battle of Stalingrad) หนึ่งในสมรภูมิชี้ชะตาในสงครามโลกครั้งที่ 2

Battle of Stalingrad นั่นเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญและมีชื่อเสียงเหตุการหนึ่งในประวัติศาสตร์ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองระหว่างประเทศเยอรมันและสหภาพโซเวียตเมื่อปี 1942-1943 โดยถือว่าเป็นสมรภูมิที่มีความยากลำบากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์มนุษย์ โดยบริเวณที่ตั้งของสตาลินกราด (Stalingrad) อยู่บริเวณแม่น้ำวอลกา (Volga River) ในประเทศรัสเซีย สถานที่แห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในจุดสำคัญของสงครามระหว่างเยอรมันและโซเวียตในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อเยอรมันโจมตีเมืองสตาลินกราดในปี 1942 และพยายามครองเมืองเพื่อควบคุมทางผ่านที่สำคัญไปยังแม่น้ำวอลกา โซเวียตใช้กำลังพลเกือบ 1 ล้านคนมายังสตาลินกราดเพื่อป้องกัน จึงทำให้เหตุการณ์นี้เป็นอีกหนึ่งสมรภูมิสำคัญของทั้งสองฝ่าย การต่อสู้ระหว่างกองทัพที่ 6 ของเยอรมันภายใต้บังคับบัญชาของนายพลมาร์แชล เฮอร์แมน และกองทัพที่ 62 ของโซเวียตภายใต้บังคับของผู้บัญชาการกองทัพอย่างเจออร์กี จูกอ

ในช่วงเดือนสิงหาคม 1942 เมื่อเยอรมันเริ่มการบุกโจมตีสตาลินกราด โดยพยายามควบคุมส่วนกลางของเมือง การต่อสู้ในสตาลินกราดเกิดขึ้นอย่างรุนแรงและมีผู้เสียชีวิตมากมาย ในช่วงเริ่มต้นของสมรภูมิกองทัพเยอรมันบุกเข้าเมืองและครองยุทธศาสตร์ที่มีสำคัญบางส่วนได้ แต่กองทัพโซเวียตไม่ยอมแพ้เช่นกัน โดยได้ทำการต่อสู่โดยยุทธวิธีต่างๆ อาทิ ตัดพลกำลังเสริมของเยอรมัน ทำลายสิ่งก่อสร้างเพื่อป้องกันการย้ายฐานที่มั่นของเยอรมัน และทำให้กองทัพเยอรมันต้องต่อสู้ในสภาพแวดล้อมที่ทรุดโทรมยากลำบาก

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 1942 กองทัพโซเวียตเริ่มการตอบโต้ด้วยการทำลายสิ่งของยังชีพของกองทัพเยอรมัน พวกเขาควบคุมการขนส่งทางน้ำและตัดการส่งมอบกำลังบำรุงต่างๆ ต่อมาในช่วงเดือนมกราคม 1943 กองทัพโซเวียตเริ่มการบุกเข้าไปในตัวเมืองและเอาชนะกองทัพเยอรมันในการต่อสู้ในสภาพที่ยากลำบากอย่างมาก เยอรมันเจ็บและต้องถอยออกจากจุดสำคัญต่างๆ

ในช่วงสองสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ 1943 กองทัพเยอรมันที่เหลือต้องต่อสู้อยู่ในสภาพที่เลวร้าย พวกเขาถูกล้อมอยู่ในเขตทางทิศตะวันตกของเมือง และกองทัพเยอรมันกำลังถูกกดดันอย่างหนักและตามมาด้วยการบุกโจมตีจากทัพโซเวียตในทิศตะวันออก ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 1943 นายเฮอร์แมน สั่งให้กองทัพเยอรมันที่เหลือหลายพันคนจากกองทัพที่ 6 และ 4 ที่ยังคงอยู่ในสมรภูมิถอยออกจากเมือง กองทัพเยอรมันถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มเล็กๆ สภาพทางกายและจิตใจของกองทัพเยอรมันเสื่อมโทรมอย่างมาก พวกเขาต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย เช่น สภาพอากาศที่ทรุดโทรมและหนาวเย็น ขาดแคลนอาหารและเวชภัณฑ์ กำลังพลที่ถูกทำลายอย่างรุนแรงระหว่างถอยทัพ ทำให้กองทัพเยอรมันสูญเสียกำลังพลประมาณ 800,000 คน การถอยออกจากสตาลินกราดของกองทัพเยอรมันนั้น เริ่มส่งผลให้สูญเสียอำนาจและความเชื่อมั่นในการชนะจากเหล่าพันธมิตร ในทางตรงกันข้าม กองทัพโซเวียตมีการเจรจาประสบความสำเร็จในการร่วมมือกับพันธมิตรในการต่อสู้ต่อไปส่งผลต่อทิศทางของสงครามโลกครั้งที่สอง

ผลกระทบจากเหตุการณ์ Battle of Stalingrad

Battle of Stalingrad มีผลกระทบทางกว้างขวางต่อเหตุการณ์และสงครามโลกครั้งที่สองและเป็นหนึ่งในสมรภูมิที่นำมาซึ่งจุดชี้ขาดของสงคราม

1. การเปลี่ยนแปลงทางทหาร: การชนะของกองทัพโซเวียตทำให้กำลังทหารเยอรมันบาดเจ็บและสูญเสียมากมาย ผลของการรบใถูกพิจารณาว่าเป็นจุดตัดสินสำคัญที่นำไปสู่ความพ่ายแพ้ของเยอรมันในสงครามโลก
2. การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ: การสูญเสียในสตาลินกราดส่งผลให้เยอรมันสูญเสียแหล่งพลังงานและทรัพยากรสำคัญ สภาพเศรษฐกิจของเยอรมันเสื่อมถอยลงอย่างมาก ทำให้เยอรมันไม่สามารถต่อสู่ในสงครามได้ดีอย่างก่อนหน้าอีกต่อไป

และทั้งหมดคือเรื่องราวคร่าวๆ ใน ยุทธการที่สตาลินกราด (Battle of Stalingrad) หนึ่งในสมรภูมิที่มีชื่อเสียงมากในประวัติศาสตร์ ใครที่สนใจอยากติดตามเรื่องราวในอีกแง่มุมทาง Reeeed ก็มีหนังสือแนะนำอย่าง BLOOD RED SNOW สมรภูมิหิมะสีเลือด ที่จะมาถ่ายทอดเหตุการณ์ดังกล่าวได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ซื้อ e book BLOOD RED SNOW สมรภูมิหิมะสีเลือด