สงครามครูเสด (Crusades war) ความขัดแย้งบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์กว่า 200 ปี

ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาตินั้นต่างมีเรื่องราวน้องเลือดก่อสงครามกันมากมายนับครั้งไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นระหว่างอาณาจักรเล็กๆ หรือ อาณาจักรใหญ่ด้วยกันเอง แม้กระทั่งสงครามที่มีขนาดใหญ่จนส่งผลกระทบต่อโลกทั้งใบอย่างสงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่หนึ่งในเหตุความขัดแย้งที่จะไม่เอ่ยถึงเลยไม่ได้นั้นก็คือ สงครามครูเสด Crusades หนึ่งในสงครามความขัดแย่งที่กินระยะเวลายาวนานกว่า 200 ปี ทั้งยังก่อให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพสินทรัพย์มากมาย เป็นอีกหนึ่งสงครามที่ถูกกล่าวถึงและยังคงศึกษากันอย่างจริงจังจนถึงทุกวันนี้ ในวันนี้ Reeeed จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับความขัดแย้งของสงครามระยะเวลากว่า 200 ปีนี้ว่ามีที่มาอย่างไรและสงผลกระทบใดต่อโลกบ้าง

สงครามครูเสด Crusades war คืออะไร

สงครามครูเสด Crusades คือสงคราม แห่งศรัทธาระหว่างชาวคริสต์กับชาวมุสลิมที่เกิดขึ้นในยุคศตวรรษที่ 11 ถึงศตวรรษที่ 13 โดยในระยะเวลากว่า 200 ปีนั้นเกิดสงครามครั้งใหญ่ถึง 9 ครั้ง แต่ละครั้งมีเหตุผลและผลกระทบที่แตกต่างกันไป สงครามครูเสดครั้งแรกนั้นเกิดขึ้นในปี 1096 และครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในปี 1272 สงครามครูเสดเกิดขึ้นเนื่องจากความขัดแย้งทางศาสนาและเกี่ยวกับการครอบครองที่ศาสนจักรของชาวคริสต์ซึ่งได้ทำการยกทัพเพื่อตีเอาเมืองเยรูซาเล็ม ที่ถือเป็นเมืองสำคัญทางศาสนาของชาวคริสต์ การรบกันกว่า 200 ปีนี้ก่อให้เกิดอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้านที่สำคัญไปทั่วทั้งแถบพื้นที่การรบ นอกจากนี้ยังมีเหตุผลอื่นๆ แอบแฝงจากการสันนิฐานอีกมากมายในการรบแต่ละครั้งก็มีชนวนเหตุที่แตกต่างกันออกไปเพิ่มขึ้น

สาเหตุ สงครามครูเสด Crusades

สาเหตุของสงครามครูเสดหลักๆ แล้วเป็นสงครามที่เกิดจากความเชื่อและขัดแย้งทางศาสนาอย่างที่กล่าวข้างต้น จนลุกลามเกิดการแย่งชิงกรุงเยรูซาเล็ม แต่นอกเหนือไปจากนั้นแล้วก็ยังมีปัจจุยอื่นอีกมากมายที่ไม่สามารถมองข้ามได้ อาทิ การสร้างเสริมอำนาจและฐานะทางทหารของคริสจักรที่ก่อตั้งขึ้นใหม่ในช่วงศตวรรษที่ 11 , การแย่งชิงเส้นทางค้าและครอบครองดินแดน เส้นทางค้าขายระหว่างยุโรปและภูมิภาคอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่สงคราม หรือแม้แต่การสร้างความเชื่อมั่นต่อคริสจักรว่าการร่วมสงครามนั้นเป็นการปกป้องคริสต์ศาสนา และทำให้ผู้เข้าร่วมสงครามได้ทำพันธกิจต่อพระเจ้า

สงครามครูเสดครั้งสำคัญ

ในระยะเวลา 200 ปีมีการต่อสู่ครั้งใคญ่ในสงครามครูเสดทั้ง 9 ครั้ง โดยในวันนี้เราจะหยิบยกสงครามบางครั้งมาเล่าให้นักอ่าทุกคนฟังกันค่ะ

สงครามครูเสดที่ 1 ปี 1096

กองทัพของคริสตจักรเริ่มต้นการเดินทางจากยุโรปเพื่อไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อซึ่งตั้งอยู่ในอาณาบริเวณของชาวมุสลิม โดยมีผู้นำทางศาสนาระดับสูงเป็นผู้นำกองทัพดังกล่าวแต่ในการเดินทางข้ามทวีปนี้ กองทัพของคริสตจักรพบกับอุปสรรคหลายอย่าง เช่น สภาพอากาศไม่อำนายนัก , โรคระบาด , การสุ่มโจมตีจากทัพมุสลิมและปัญหาอื่นๆ และเมื่อเดินทางถึงยังที่หมายและเผชิญหน้ากับกองทัพมุสลิมทำให้กองทัพของคริสตจักรที่มีปัญหาในการจัดการและปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมต้องเสียเปรียบทำให้เกิดการสูญเสียของกองทัพและชีวิตเป็นจำนวนมาก แต่สุดท้ายกองทัพของคริสตจักรก็สามารถเข้ายึดเยรูซาเล็มได้ในปี 1099 และก่อตั้งศาสจักรขึ้นที่นั้น ต่อมาในปี 1187 ครัิสจักรก็ต้องสูญเสียเยรูซาเล็มและพื้นที่ที่ยึดครองมาได้มากมายอีกครั้งภายใต้การนำของซาลาดิน

สงครามครูเสดที่ 9 ปี 1271 

หรืออีกชื่อ สงครามครูเสดของลอร์ดเอ็ดเวิร์ด เป็นสงครามครูเสดครั้งสุดท้ายโดยในฝั่งคริสเตียนนั้นมีการรวมัพกันมากมายอาทิ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 แห่งเนเปิลส์, พระเจ้าฮิวจ์ที่ 3 แห่งไซปรัส, เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดแห่งอังกฤษ, โบฮีมอนด์ที่ 6 แห่งอันติโอค, อบาคา ข่านแห่งมองโกล และ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอาร์มีเนีย ร่วมกันนำกองทัพเข้าโจมตีชาวมุสลิมเพื่อแย่งชิงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ตามคำสั่งของดยุคเอ็ดเวิร์ด(กษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 1 แห่งอังกฤษ) โดยฝ่ายมุสลิมนำทักโดย สุลต่านไบบาร์ ผู้เป็นเหลนของซาลาดิน นับเป็นการสู้รบครั้งใหญ่ครั้งสุดม้ายในยุคกลางและชัยชนะก็ตกเป็นของฝ่ายมุสลิม โดยสาเหตุหลักมาจากพลังใจในการรบของฝั่งคริสเตียนที่สูญสิ้นแทบทั้งหมดทำให้สงครามศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ไม่มีความหมายใดๆ อีกต่อไป

ผลกระทบของสงครามครูเสด

ชนชาติคริสเตียนในยุโรปมากมายที่เข้าสู่สงครามศักดิ์สิทธิ์ในครั้งนี้ สงครามครูเสดกลับก่อให้เกิดการสูญเสียทรัพย์สินและชีวิตอย่างมากมายมหาศาล เต็มไปด้วยการสูญเสียและทุกข์ใจมากมาย แต่ก็ทำให้ชาวคริสเตียนสามารถร่วมใจกันเป็นหนึ่งได้เข้มแข็งขึ้นเช่นกัน มีการเกิดขึ้นของกองกำลังใหม่ๆ ในศาสนาคริสต์และศาสนาเข้ามีส่วนร่วมในการปกครอง

ทางฝั่งมุสลิมเองก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและทางเศรษฐกิจพร้อมๆ กับขัดแย้งกันเองของศาสนาภายใน แต่ก็ก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างชนชาติคริสเตียนในยุโรปและชาวมุสลิมเช่นกัน

และทั้งหมดคือเรื่องราวของสงครามครูเสดที่เรานำมาฝากกันค่ะ เห็นได้ว่าไม่มีสงครามครั้งไหนไม่มีการสูญเสียและไม่ว่าฝ่ายไหนจะชนะต่างก็สร้างบาดแผลและการล้มตายของผู้คนเป็นจำนวนมากอยู่ดี การลงมือเข่นฆ่ากันของมนุษย์ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์เท่าสันติวิธี สำหรับใครที่สนใจเรื่องสงครามครูเสดอย่างละเอียดเราก็มีหนังสือแนะนำอย่าง The Crusades ครูเสด มหาสงครามแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ ที่เขียนโดยคุณภาสพันธ์ ปานสีดา จากสำนักพิมพ์ยิปซีมาฝากกันค่ะ เป็นอีกหนึ่งเล่มที่มีเนื้อหาครบถ้วนและสามารถอ่านได้กับทาง Reeeed เลย สุดท้ายนี้อย่าลืมติดตามบทความสาระดีๆ รีวิวแแนะนำหนังสือหรือนักเขียนได้ใหม่ที่ article.reeeed.com นะคะ และหากนึกถึงร้านหนังสือออนไลน์อย่าลืมแวะเข้ามาได้ที่ Reeeed.com เลือกจะ Read เลือก Reeeed นะคะ

แม้ภาพลักษณ์ของสงครามครูเสดในสายตาของคนยุคหลังมักถูกมองว่าเป็นสงครามแห่งศาสนาและความงมงายบ้าคลั่งของชาวคริสต์ในยุคกลางแต่ด้วยหลักฐานทางประวัติศาสตร์

ด้านสังคมและเศรษฐกิจในยุคนั้นกลับบ่งชี้ว่าผลของการทำสงครามครูเสดนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสังคมยุโรปอย่างไม่เคยมีมาก่อน ด้วยการพลิกโฉมหน้าของสังคมศักดินาอันล้าหลังให้กลายเป็นยุคแห่งรัฐชาติที่มีอำนาจทางการเมืองที่ทันสมัยและเป็นปึกแผ่น พร้อมกับภาวะเศรษฐกิจที่เฟื่องฟูและรุ่งโรจน์อย่างน่าเหลือเชื่อ และด้วยผลของความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก็กลายมาเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างสังคมโลกตะวันตกสมัยใหม่ด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้น สงครามครูเสดจึงมิใช่เพียง สงครามศาสนาระหว่างคริสต์ศาสนาและศาสนาอิสลามเท่านั้นแต่นี่คือสงครามที่เปลี่ยนโลกทั้งโลกไปตลอดกาลอย่างแท้จริง

ซื้อหนังสือ The Crusades ครูเสด มหาสงครามแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์